10 เทคนิคเพิ่มยอดขายร้านแฟรนไชส์ให้ก้าวกระโดด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบบธุรกิจแฟรนไชส์กำลังมาแรงอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งธุรกิจแบรนด์ใหญ่และธุรกิจหน้าใหม่จากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต่างหันมาขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์กันมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแค่ฝั่งเจ้าของแฟรนไชส์ที่พยายามเปิดสาขาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนผู้ซื้อแฟรนไชส์เองก็มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเท่าทวีคูณ จนกลายเป็นหนึ่งในรูปแบบธุรกิจยอดนิยมและฮอตฮิตที่สุดในยุคปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์หลายธุรกิจจึงพยายามผลักดันตัวเองเพื่อที่จะได้เงินทุนคืนโดยเร็ว แถมยังได้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้แฟรนไชส์พันธุ์ไทยจะมาบอกต่อเทคนิคการเพิ่มยอดขายร้านแฟรนไชส์ทำแล้วรวยแบบก้าวกระโดด
ทำไมถึงควรลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์?
นักธุรกิจมือใหม่หลายคนที่กำลังลังเลในการเปิดแฟรนไชส์ คงสงสัยว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นดีอย่างไร ระบบแฟรนไชส์มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เนื่องจากเป็นวิธีการขยายธุรกิจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเจ้าของแฟรนไชส์สามารถแบ่งปันความเสี่ยงกับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ในขณะที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ก็ได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้แบรนด์และระบบการดำเนินงานที่พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง ด้วยแนวโน้มที่ดีเช่นนี้ คาดว่าระบบแฟรนไชส์จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต
บอกต่อ 10 เทคนิคเพิ่มยอดขายร้านแฟรนไชส์
1. สร้างมาตรฐานต่อธุรกิจแฟรนไชส์
สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่ยอดขายและกำไรของแต่ละสาขาเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษามาตรฐานของสินค้าและบริการให้เหมือนกันทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพสินค้า รสชาติ ความสะอาด การบริการ การแต่งกายพนักงาน การตกแต่งร้าน บรรยากาศ เวลาเปิด-ปิด การจัดวางสินค้า ฯลฯ ต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องการและคาดหวังจากธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ
การรักษามาตรฐานทุกด้านอย่างสม่ำเสมอจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์นั้นประสบความสำเร็จในระยะยาว
2. โปรโมทธุรกิจแฟรนไชส์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
แม้จะมีสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเยี่ยม แต่หากขาดการทำการตลาดและโปรโมทอย่างถูกต้องและตรงกลุ่มเป้าหมาย ก็อาจทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราเป็นเจ้าของประสบความยากลำบากในการเติบโต การโปรโมทถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ เนื่องจากไม่เพียงช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้าใหม่เท่านั้น แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ซึ่งจะนำมาซึ่งยอดขายที่มั่นคงในระยะยาว
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การโปรโมทเพื่อสร้างยอดขายสามารถทำได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้เราวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมวงกว้าง นอกจากนี้ฟีเจอร์ต่างๆ ของโซเชียลมีเดียยังช่วยให้การโปรโมทธุรกิจดูทันสมัยและน่าสนใจตามเทรนด์ได้อีกด้วย
ดังนั้น การให้ความสำคัญกับการโปรโมทและการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแฟรนไชส์ในการสร้างการรับรู้ ดึงดูดลูกค้าใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้อย่างยั่งยืน
3. กระตุ้นยอดขายด้วยโปรโมชั่น
การจัดโปรโมชั่นถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่สินค้า การลดราคา การแจกของรางวัลหรือของสมนาคุณ ล้วนแต่เป็นวิธีการที่ช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นความต้องการซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
เมื่อลูกค้ารู้สึกชื่นชอบและหลงใหลในสินค้าหรือโปรโมชั่นนั้นๆ พวกเขามักจะมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งลูกค้าให้ความสนใจกับโปรโมชั่นมากเท่าใด ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าสินค้านั้นจะขายได้มากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสินค้าที่มีโปรโมชั่นกับไม่มีโปรโมชั่น ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะพิจารณาเลือกซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่นเป็นอันดับแรก ด้วยเหตุนี้ การจัดโปรโมชั่นจึงกลายเป็นหนึ่งในกลเม็ดสำคัญในการดึงดูดและสร้างฐานลูกค้าให้แก่ธุรกิจ
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การวางแผนและจัดโปรโมชั่นอย่างเหมาะสมล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและบรรลุยอดขายตามเป้าหมายได้
4. ทำตลาดออนไลน์สร้างการรับรู้แบรนด์
การทำตลาดออนไลน์เป็นช่องทางสำคัญในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่และเพิ่มยอดขายได้ มีรายละเอียดดังนี้
การตลาดผ่าน Social Media
- สร้าง Page/Account บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, TikTok
- นำเสนอคอนเทนต์และโปรโมชันอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการทำกิจกรรมแคมเปญต่างๆ
- โพสต์รูปสินค้า/บริการ ข้อมูล รีวิว และคลิปวิดีโอน่าสนใจเพื่อให้เป็นที่จดจำ
- มีปฏิสัมพันธ์และตอบคำถามของผู้ติดตามอย่างทันท่วงที
- สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำด้วยการซื้อโฆษณาออนไลน์
จัดทำเว็บไซต์และจุดขายออนไลน์
- จัดทำเว็บไซต์แนะนำสินค้าและบริการของร้าน พร้อมข้อมูลและภาพที่น่าสนใจ
- เปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopee, Lazada, JD Central
- นำเข้าสินค้าทั้งหมดลงระบบร้านค้า พร้อมราคา รายละเอียด และระบบจัดส่ง
- มีระบบการรับชำระเงินที่หลากหลายและปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวก
- ทำการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์ร้านค้าออนไลน์บนช่องทางต่างๆ
Influencer Marketing
- ร่วมมือกับ Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายของร้าน
- ให้ Influencer ทำการรีวิว แนะนำสินค้า/บริการผ่านช่องทางออนไลน์ของตนเอง
- Influencer ช่วยสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ดี
- สามารถเรียกยอดวิวและผู้ติดตามเข้ามาที่ร้านได้เป็นจำนวนมาก
การทำตลาดออนไลน์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มการรับรู้และสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ผ่านโลกออนไลน์ นำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้ต่อไป
5. ขยายช่วงเวลาในการสินค้า
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจแฟรนไชส์คือช่วงเวลาการขายสินค้าหรือให้บริการ การเลือกช่วงเวลาเปิด-ปิดร้านให้เหมาะสมจะช่วยสอดรับกับเป้ายอดขายที่กำหนดไว้ได้ดียิ่งขึ้น
ในการพิจารณาช่วงเวลาทำการที่เหมาะสม ควรคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ประเภทสินค้า/บริการ สถานที่ตั้ง และพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น สำหรับร้านกาแฟแฟรนไชส์ที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ มีลูกค้าหลักเป็นพนักงานออฟฟิศ ก็อาจเลือกเปิดร้านตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงช่วงเย็นให้ครอบคลุมช่วงเวลาทำงานของลูกค้า หรืออาจเปิดเร็วกว่าคู่แข่งสักพักและปิดช้ากว่าหน่อย ก็จะช่วยดึงดูดยอดขายเพิ่มมากขึ้น
การวางกลยุทธ์เรื่องเวลาเปิด-ปิดร้านที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายจะเป็นปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ได้เป็นอย่างดี
6. เพิ่มช่องทางการขายแบบเดลิเวอรี
ในยุคดิจิทัลนี้ การขายสินค้าหน้าร้านเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการสร้างรายได้อีกต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป โดยระบบจัดส่งสินค้า (Delivery Service) มีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่
ดังนั้น เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและยอดขาย ธุรกิจแฟรนไชส์ควรเสริมบริการจัดส่งสินค้า ซึ่งอาจทำได้โดยการเข้าร่วมกับผู้ให้บริการจัดส่งภายนอก เช่น Grab, Lineman, Foodpanda, Robinhood หรือจ้างพนักงานประจำตำแหน่งจัดส่งเอง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้แฟรนไชส์ต้นสังกัดเข้าร่วมระบบก่อน
การให้บริการจัดส่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันได้อย่างตรงจุด ช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่อยู่ห่างไกลจากร้าน หากพวกเขาพอใจในสินค้าและบริการก็อาจตามมาใช้บริการหน้าร้านเพิ่มเติมในอนาคต นับเป็นโอกาสทองในการเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. มอบการบริการที่ประทับใจ
แม้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของแฟรนไชส์จะมีคุณภาพดีเลิศเพียงใด แต่หากพนักงานผู้ให้บริการขาดความเข้าใจหรือไม่ใส่ใจในงานบริการลูกค้า ก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนหรือจุดบอดของธุรกิจได้ เนื่องจากในมุมมองของลูกค้า พวกเขาต้องการได้รับทั้งสินค้าที่ดีและบริการที่ยอดเยี่ยมควบคู่กันไป
ดังนั้น สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่จำเป็นต้องจ้างพนักงานมาปฏิบัติงาน จึงจำเป็นต้องวางนโยบายและจัดฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการให้บริการลูกค้าอย่างดีเยี่ยมให้เป็นไปตามมาตรฐานของแบรนด์แฟรนไชส์หลัก
การให้บริการลูกค้าที่ประทับใจนับเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความพึงพอใจและความภักดีต่อแบรนด์ จะช่วยเสริมสร้างฐานลูกค้าประจำและส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
8. ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้ธุรกิจแข็งแกร่ง
การทำพันธมิตรกับธุรกิจอื่นๆ เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยขยายฐานลูกค้าและยอดขายได้ มีรูปแบบที่น่าสนใจดังนี้
ร่วมรายการส่งเสริมการขาย
- ร่วมมือกับธุรกิจที่ไม่ใช่คู่แข่งโดยตรง เช่น ร้านกาแฟร่วมกับร้านขายแก้ว
- ทำโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ซื้อสินค้าตาม ก. ข. จากทั้งสองร้าน รับส่วนลด 10-20%
- ช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าจากทั้งสองร้าน เพิ่มยอดขาย
ให้ส่วนลดซึ่งกันและกัน
- ธุรกิจคู่พันธมิตรเสนอส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าของกันและกัน เช่น ลูกค้าของพันธุ์ไทยสามารถโชว์บัตร Max Card Plus และแอป Max Me ใช้ลดค่าเครื่องดื่มพันธุ์ไทยได้เลย 50% ทุกเมนู 10 แก้วต่อเดือน
- ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่จากคู่พันธมิตรมาใช้บริการ
- สร้างความประทับใจให้ลูกค้าเดิม เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ
ออกบัตรสมาชิกร่วม
- ออกบัตรสมาชิกให้แก่ลูกค้าทั้งสองธุรกิจคู่พันธมิตร
- สะสมคะแนนจากยอดใช้จ่าย เพื่อรับสิทธิพิเศษ นำไปใช้เป็นส่วนลดหรือได้ของรางวัล
- เป็นการผูกมัดลูกค้าให้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
การทำพันธมิตรช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น และสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกจากสิทธิประโยชน์พิเศษ ช่วยสร้างยอดขายเพิ่มโดยไม่ต้องลงทุนสูง
9. สร้างบริการที่แตกต่าง
บริการเสริมที่แตกต่างและโดดเด่นเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่และสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ตัวอย่างบริการเสริมที่น่าสนใจมีดังนี้
บริการจัดส่งสินค้า
- เป็นบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย
- ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของลูกค้า
- สามารถกำหนดเงื่อนไขจัดส่งฟรีได้ เช่น สั่งซื้อขั้นต่ำ 500 บาท หรือจัดส่งฟรีภายในรัศมี 5 กม.
- หากคู่แข่งไม่มีบริการนี้ ก็จะทำให้ร้านเราโดดเด่นและได้เปรียบ
บริการแพ็คกระเช้าของขวัญ
- ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่ต้องการซื้อของขวัญหรือของฝาก
- สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ทำให้ดูน่าสนใจและเหมาะเป็นของขวัญมากขึ้น
- สามารถคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากการแพ็คของขวัญ เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง
- ดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น วันเกิด วันแม่ วันครู ฯลฯ
ซื้อ 1 แถม 1
- เป็นโปรโมชั่นที่น่าสนใจสำหรับลูกค้า ได้สินค้ามากกว่าปกติในราคาเดียวกัน
- สามารถระบุเงื่อนไขได้ เช่น ซื้อสินค้าชิ้นที่แพงกว่าฟรีสินค้าชิ้นที่ถูกกว่า
- เหมาะสำหรับสินค้าที่มีอายุสั้น เพื่อทำให้ขายได้เร็วยิ่งขึ้น
- ดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ที่ชอบซื้อสินค้าปริมาณมากในคราวเดียว
บริการพิเศษเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าสนใจมาลองใช้บริการ รวมถึงสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะนำไปสู่การบอกต่อและรักษาฐานลูกค้าได้ต่อไป
10. กลยุทธ์การตลาด เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่
กลยุทธ์การตลาดที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามาใช้บริการของธุรกิจแฟรนไชส์ การสร้างการรับรู้และจูงใจให้ลูกค้ากลุ่มใหม่สนใจในบริการนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายแต่ก็มีช่องทางต่างๆ ที่ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ กลยุทธ์การตลาดเป็นเครื่องมือเทคนิคการเพิ่มยอดขายที่สำคัญในการดึงดูดลูกค้าใหม่ให้มาใช้บริการ มีหลายรูปแบบดังนี้
การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- โฆษณาผ่านสื่อต่างๆ เช่น ป้ายกลางแจ้ง นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
- โฆษณาออนไลน์ ผ่าน Google Ads, Facebook Ads ฯลฯ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
- จัดงานแถลงข่าว กิจกรรมพิเศษ เพื่อดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชน
- การส่งเสริมการขายพิเศษ ลดราคา แจกของแถม เพื่อจูงใจให้มาลองใช้บริการ
ส่งเสริมการขายดึงดูดลูกค้า
- มอบส่วนลดหรือของสมนาคุณแก่ลูกค้าใหม่ที่มาสมัครเป็นสมาชิก
- จัดโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1, ลดราคาเมื่อซื้อปริมาณมาก ในช่วงวันพิเศษ หรือเทศกาลสำคัญ
- มีระบบบัตรสะสมคะแนน และสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าสมัครสมาชิก
- แจกคูปองส่วนลด หรือฟรีสินค้า เพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
การเปิดสาขาในทำเลใหม่
- สำรวจและวิเคราะห์ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีแหล่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใด
- ขยายสาขาไปยังพื้นที่ใหม่ที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ย่านธุรกิจ หมู่บ้านจัดสรรใหม่
- การเปิดสาขาใหม่ในบริเวณเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น
การผสมผสานกลยุทธ์เหล่านี้อย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มการรับรู้และใกล้ชิดกับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้มากขึ้น รวมถึงดึงดูดให้มาลองใช้บริการของร้าน ซึ่งจะนำมาซึ่งโอกาสในการเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืน
ถึงแม้ว่าเราจะรู้เทคนิคเพิ่มยอดขายร้านแฟรนไชส์แล้ว แต่เส้นทางยังอีกยาวไกล การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ ที่ไม่ใช่เพียงแค่นำเมล็ดลงไปในดิน แต่เราจะต้องดูแลตั้งแต่รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ให้ต้นไม้ค่อยๆ เติบโต สำหรับนักลงทุนแฟรนไชส์มือใหม่ ลองมาลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์กับพันธุ์ไทยสิ พันธุ์ไทยแฟรนไชส์นอกจากจะลงทุนง่ายไม่ยุ่งยากแล้ว ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านเปิดแฟรนไชส์ร้านกาแฟหรือร้านขายของเลยก็สามารถลงทุนแฟรนไชส์กับเราได้
ทำไมถึงควรลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์กับพันธุ์ไทย?
พันธุ์ไทยได้ออกแบบแฟรนไชส์ร้านกาแฟให้ง่ายต่อการลงทุนและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ ด้วยการลงทุนครั้งเดียวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พร้อมได้รับการสนับสนุนด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการฝึกอบรมบุคลากร ทำให้นักลงทุนที่ต้องการเปิดแฟรนไชส์กับเราไม่ต้องกังวลเรื่องการโปรโมทและการขาย เนื่องจากทางแฟรนไชส์จะมีทีมงานคอยดูแลในส่วนนี้ให้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีระบบเดลิเวอรีช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายด้วย เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟโดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมการลงทุนร้านกาแฟแฟรนไชส์กับพันธุ์ไทยได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย