ดื่มกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยอย่างไรให้สนุกขึ้น ลองเลือกวงล้อกาแฟที่เป็นตัวคุณ
ปัจจุบันกาแฟแคปซูลได้รับความนิยมกันมากในเหล่าคอกาแฟ โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศหรือคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาแฟดื่ม เพราะแคปซูลกาแฟหนึ่งกล่อง ประกอบไปด้วยแคปซูลมากถึง 10 แคปซูลด้วยกัน แถมราคากล่องละไม่กี่ร้อยบาท ตกแคปซูลละ 20-22 บาท เท่านั้น อีกทั้งยังสามารถประหยัดเวลาในการชงกาแฟอีกด้วย เพียงแค่ใส่กาแฟแคปซูลลงไปในเครื่องชงกาแฟแคปซูล เราก็จะได้ดื่มกาแฟที่สดใหม่แล้ว อย่างกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยที่มีคุณภาพคับแก้ว รสชาติเข้มข้นเหมือนสั่งจากคาเฟ่อย่างไรอย่างนั้น แต่กาแฟแคปซูลนั้นมีหลากหลายรสชาติและกลิ่นให้เลือก เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคั่วแบบไหน กลิ่นแบบไหนถึงเหมาะกับเรา วงล้อกาแฟนี่แหละจะสามารถบอกคุณได้ วันนี้พันธุ์ไทยจะมาชวนกันทำความรู้จักกับวงล้อกาแฟ เพื่อให้คุณสามารถเลือกกาแฟได้อย่างตรงใจ
วงล้อกาแฟ หรือ Coffee Taster's Flavor Wheel คืออะไร?
สำหรับนักชิมกาแฟ การดื่มด่ำรสชาติกาแฟนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน แม้คุณอาจคิดว่าเป็นเพียงแค่การดื่มกาแฟแก้วโปรด แต่คุณอาจไม่สามารถบรรยายรสชาติที่ได้รับอย่างละเอียดเหมือนผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากพวกเขามีเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์และแยกแยะรสชาติต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ นั่นคือ "Coffee Taster's Flavor Wheel" หรือ “วงล้อกลิ่นกาแฟ”
วงล้อกาแฟสีสันสดใสนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อตกแต่งร้านกาแฟเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คนในวงการกาแฟ ตั้งแต่ผู้ปลูก ผู้แปรรูป ผู้คั่ว และผู้ชงกาแฟ สามารถสื่อสารถึงรสชาติต่างๆ ที่พบในกาแฟได้อย่างชัดเจน
Coffee Taster's Flavor Wheel ถูกพัฒนาขึ้นโดย Specialty Coffee Association (SCA) ร่วมกับ World Coffee Research โดยอาศัยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา เช่น นักชิมกาแฟมืออาชีพ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ซื้อกาแฟ และบริษัทคั่วกาแฟ ถือเป็นผลงานวิจัยด้านรสชาติกาแฟที่ยิ่งใหญ่และมีความร่วมมือสูงสุด
วงล้อรสชาติกาแฟสามารถแทนค่ารสชาติออกมาเป็นเฉดสีได้มากถึง 110 เฉดสี ที่สื่อออกมาถึงกลิ่นและรสชาติของกาแฟ หากอยากเพลิดเพลินกับการดื่มกาแฟและเข้าใจรสชาติต่างๆ มากขึ้น การทำความรู้จักกับ Coffee Taster's Flavor Wheel จะช่วยให้คุณเข้าถึงคำศัพท์และมุมมองที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการบรรยายรสชาติอย่างลึกซึ้ง ทำให้การดื่มกาแฟเป็นประสบการณ์ที่สนุกและเพลิดเพลินยิ่งขึ้น
การแบ่งสีของวงล้อกาแฟ
วงล้อกลิ่นและรสชาติกาแฟมีโครงสร้างเป็น 3 วงซ้อนกัน ดังนี้:
1. วงใน 9 ช่อง - แบ่งกลุ่มหลักอย่างกว้างๆ เช่น ผลไม้, ผัก, ดอกไม้
2. วงกลาง 28 ช่อง - แบ่งกลุ่มย่อยและระบุรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ผลไม้สุก, ผลไม้เปรี้ยว, ผลไม้แห้ง
3. วงนอก 73 ช่อง - แบ่งกลุ่มและวิเคราะห์กลิ่นและรสชาติอย่างละเอียดและชัดเจน โดยช่องที่ติดกันจะมีความคล้ายคลึงกัน เช่น กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่
โครงสร้างแบบวงซ้อนกันนี้ช่วยให้สามารถจำแนกและวิเคราะห์กลิ่นและรสชาติของกาแฟได้อย่างละเอียดและค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากกลุ่มใหญ่ไปสู่กลุ่มย่อยและรายละเอียดปลีกย่อย
ความหมายของสีในวงล้อกาแฟ
สีแต่ละสีในวงล้อกาแฟบ่งบอกถึงความหลากหลายของรสชาติและกลิ่นในกาแฟได้ดียิ่งขึ้น โดยสีต่างๆ เหล่านี้เป็นการสื่อถึงลักษณะเฉพาะของกาแฟแต่ละชนิด ทั้งในแง่ของกลิ่น รสชาติ และระดับความสุกของเมล็ดกาแฟ
การจำแนกด้วยสีช่วยให้ผู้ชงกาแฟและผู้ดื่มสามารถคาดเดาถึงรสชาติและลักษณะของกาแฟที่จะได้รับได้อย่างคร่าวๆ เช่น กลุ่มสีแดงและสีชมพูเข้มจะให้กลิ่นและรสชาติผลไม้สดและดอกไม้ สดชื่นและนุ่มนวล ในขณะที่กลุ่มสีเขียวและสีเหลืองอมเขียวอาจบ่งบอกถึงกลิ่นรสผักหรือรสเปรี้ยว ซึ่งอาจเกิดจากการคั่วที่ยังไม่เหมาะสม ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ในการเลือกซื้อและชงกาแฟตามความชอบส่วนบุคคล มาทำความรู้จักของสีหลักๆ แต่ละสีในวงล้อกาแฟกันเถอะ
1. สีแดง (Red/Fruity)
- แทนกลิ่นรสผลไม้สด เช่น ราสเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เชอร์รี่
- ให้ความรู้สึกสดชื่น หวาน และมีรสเปรี้ยวนิดๆ
2. สีชมพูเข้ม (Dark Pink/Floral)
- แทนกลิ่นดอกไม้ เช่น กุหลาบ มะลิ จำปา
- ให้ความรู้สึกนุ่มนวล หอมละมุน
3. สีส้ม (Orange/Citrus)
- แทนกลิ่นผลไม้จำพวกส้ม เช่น ส้ม มะนาว เลม่อน
- ให้กลิ่นรสเปรี้ยวและมีความหวานอมเปรี้ยว
4. สีเหลือง (Yellow/Nutty/Roast)
- แทนกลิ่นคาราเมลและรสเนยถั่ว
- เกิดจากการคั่วกาแฟที่เหมาะสม ให้ความรู้สึกหอมกรุ่น
5. สีขาว (White)
- แทนกลิ่นโทน เค็ม (Salty) กลิ่นเนย (Buttery) กลิ่นวานิลลา (Vanilla)
- กลิ่นและรสชาติในกลุ่มสีขาวนี้มักจะเกิดจาก สารประกอบบางอย่างในเมล็ดกาแฟเอง เช่น โปรตีน กรดอะมิโน ที่ทำให้เกิดรสเค็มและวนิลา กระบวนการแปรรูปและคั่ว อาทิ การหมักด้วยวิธีพิเศษ การใช้น้ำตาลบางชนิดเคลือบเมล็ด หรือการเลี้ยงเมล็ดกาแฟด้วยเนยสด ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นเนยสด
- การผสมวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ใส่วานิลลาลงไปในกาแฟโดยตรง หรือใช้เครื่องเทศบางอย่าง
6. สีน้ำตาล (Brown/Roast)
- แทนกลิ่นโกโก้ คาราเมล ช็อคโกแลต ดาร์คช็อกโกแลต และกาแฟคั่วแก่
- เกิดจากการคั่วที่นานจนกาแฟมีสีคล้ำมากขึ้น
7. สีเขียว (Green/Vegetative)
- แทนกลิ่นผัก สมุนไพร ต้นไม้สด
- อาจหมายถึงกาแฟคั่วน้อยเกินไป
8. สีเทาเขียว (Gray-Green/Sour/Fermented)
- แทนกลิ่นเปรี้ยว หมัก ผุพัง
- เป็นลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ของกาแฟ
ระยะห่างของแถบสี
อีกหนึ่งรายละเอียดสำคัญที่ซ่อนอยู่ในวงล้อรสชาติกาแฟ คือ ระยะห่างระหว่างแถบสี ซึ่งจะมีความกว้างและความแคบแตกต่างกันไป บ่งบอกถึงความใกล้เคียงของกลิ่นและรสชาติในแต่ละกลุ่มว่ามีความแตกต่างหรือคล้ายคลึงกันมากน้อยเพียงใด มีทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่
1. ห่างมาก (Large Gap) หมายถึง รสชาติไม่มีความใกล้เคียงกันเลย เช่น ระหว่างกลุ่ม Citrus Fruit กับ Sour
2. ห่างน้อย (Small Gap) หมายถึง รสชาติมีความคล้ายคลึงกันบางส่วน เช่น ระหว่าง Orange กับ Lemon
3. แคบ/ชิดกัน (No Gap) หมายถึง ทั้งสองชนิดมีความใกล้เคียงกันมาก เช่น ระหว่าง Orange กับ Grapefruit
การสังเกตระยะห่างของแถบสีจะช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์และรสชาติของกาแฟได้อย่างละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยมีวิธีการดูวงล้อกาแฟดังนี้
ตัวอย่างวิธีการดูวงล้อกาแฟ
1. เริ่มจากจุดศูนย์กลางด้านในวงล้อ แล้วค่อยๆ ขยายออกไปสู่วงล้อด้านนอก โดยจะเริ่มจากหัวข้อกว้างๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เฉพาะเจาะจงลงไปเรื่อยๆ
2. หากเราดื่มกาแฟได้รสผลไม้ เราจะไปดูที่ส่วนของ "ผลไม้" (Fruity) ในวงล้อก่อน จากนั้นลองถามตัวเองว่า ผลไม้ที่เราได้รับรสชาติเป็นแนวไหน เช่น แนวเบอร์รี่ (Berry) หรือพืชตระกูลส้ม (Citrus Fruit)
3. หากเป็นพืชตระกูลส้ม วงล้อจะช่วยระบุลงไปอีกว่าเป็นรสชาติของเกรปฟรุ๊ต (Grapefruit) ส้ม (Orange) มะนาวเหลือง (Lemon) หรือมะนาวเขียว (Lime)
4. ในกรณีที่ยังไม่สามารถระบุรสชาติกว้างๆ ได้ เราสามารถเทียบเป็นโทนสีก็ได้ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น หากดื่มกาแฟแล้วรู้สึกถึงความเขียว ให้ดูที่วงล้อสีเขียว (Green/Vegetative) ว่าเป็นรสชาติแบบไม่สุกงอม (Under-Ripe) หรือสมุนไพร (Herb-Like)
5. หากดื่มแล้วรู้สึกถึงความสดใส อาจนึกถึงสีส้มและสีเหลือง ให้ลองเปรียบเทียบระหว่างวงล้อสองสีนี้ดูว่ามีความโน้มเอียงไปทางไหนมากกว่ากัน เพื่อระบุรสชาติได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
วิธีการวิเคราห์กาแฟจากการดมกลิ่นและชิม
การวิเคราะห์รสชาติกาแฟตามผัง Coffee Taster's Flavor Wheel สามารถทำได้ผ่าน 2 วิธี ได้แก่ การดมกลิ่น และ การชิมรสชาติ
การดมกลิ่นของกาแฟ (Fragrance & Aroma)
1. Fragrance - การดมกลิ่นจากเมล็ดกาแฟบด
2. Aroma - การดมกลิ่นจากกาแฟที่ชงเสร็จแล้ว
การชิมรสชาติ (Taste & Flavor)
นักชิมกาแฟมืออาชีพจะใช้วิธี "Slurp" คือการดูดกาแฟเข้าปากอย่างรวดเร็วและแรง เพื่อให้กลิ่นและรสกระจายทั่วปาก และเปิดประสาทสัมผัสให้รับรสได้อย่างเต็มที่
การดมและชิมด้วยวิธีนี้จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ของกาแฟ เช่น กลิ่น รสชาติ ความเปรี้ยว ความขม ตามวงล้อกาแฟ (Coffee Taster's Flavor Wheel) ได้อย่างละเอียดและแม่นยำมากขึ้น
กาแฟแคปซูลพันธ์ุไทยกับวงล้อกาแฟ
หากคุณเป็นคนรักกาแฟ แน่นอนว่าคุณคงไม่พลาดที่จะลองลิ้มรสกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพเยี่ยมถึง 100% ผ่านกรรมวิธีการบ่มและการคั่วอย่างพิถีพิถัน เพื่อค้นหารสชาติและกลิ่นหอมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของพันธุ์กาแฟไทย
สิ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้รสชาติคือความสะดวกสบายในการดื่มกาแฟรูปแบบแคปซูล ที่ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับกาแฟพรีเมียมคุณภาพได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ในระหว่างการเดินทาง เพียงใส่แคปซูลเข้าไปในเครื่อง คุณก็จะได้สัมผัสกับกาแฟเข้มข้นหอมกรุ่นในทันที
นอกจากนี้ กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยยังมีราคาที่จับต้องได้ง่าย เริ่มต้นเพียงแค่ 20 บาทต่อแคปซูล ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับคุณภาพ โดยมีให้เลือกถึง 3 รสชาติที่แตกต่างกันอย่างลงตัว เหมาะกับรสนิยมของคนดื่มกาแฟทุกเพศทุกวัย
1. กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ดาร์ก โรสต์ (Punthai Coffee Capsule - Dark Roasted)
- กาแฟคุณภาพสูงที่คัดสรรจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Washed Process อย่างพิถีพิถัน เพื่อคงไว้ซึ่งกลิ่นและรสชาติที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟ
- จุดเด่นของกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยดาร์กโรสต์คือการคั่วแบบเข้ม ทำให้ได้บอดี้หนักแน่น พร้อมรสชาติเข้มข้นหอมกรุ่น มีเทสโน้ตโทนช็อกโกแลตเข้มข้น ผสมผสานกับความหวานอ่อนๆ ของน้ำผึ้งปลายๆ ลิ้น ส่งผลให้รสชาติมีความกลมกล่อม และมี Aftertaste หรือรสหลังจิบที่ยาวนาน คงกลิ่นหอมสะอาดของกาแฟไว้อย่างน่าประทับใจ
- ด้วยรสชาติเข้มข้นจึงเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติและบอดี้ของกาแฟที่หนักแน่น รับประกันความอร่อยไม่ว่าจะดื่มแบบร้อนหรือเย็น เข้ากันดีกับหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารหวาน ขนมปัง หรือแม้แต่เบเกอรี่ชนิดต่างๆ
- นอกจากนี้ กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยดาร์กโรสต์ ยังมาในรูปแบบแคปซูลที่อร่อยและสะดวกต่อการบริโภค ในราคาเพียงกล่องละ 200 บาทเท่านั้น เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนรักกาแฟที่ต้องการความคุ้มค่า คุ้มคุณภาพ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ดื่มกาแฟเกรดพรีเมี่ยมแบบแท้จากพันธุ์ไทย
กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ดาร์ก โรสต์กับวงล้อกาแฟ
- กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ดาร์ก โรสต์ หากเทียบกับวงล้อกาแฟแล้วจะได้สีหลัก คือ สีน้ำตาล (Brown/Roast) เนื่องจากเป็นกาแฟคั่วเข้ม จึงจะได้กลิ่นและรสชาติในโทน ดาร์กช็อกโกแลต น้ำตาลคาราเมล โกโก้ หรือคาแรกเตอร์ของการคั่วที่เข้ม
2. กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย นัตตี้ เบลนด์ (Punthai Coffee Capsule - Nutty Blend)
- กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย นัตตี้ เบลนด์ เป็นผลิตภัณฑ์กาแฟเกรดพรีเมียมที่ผสมผสานเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากหลายแหล่งกำเนิดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น
- จุดเริ่มต้นคือเมล็ดกาแฟอาราบิก้าไทย ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Washed Process เพื่อคงกลิ่นหอมธรรมชาติและคุณภาพของเมล็ด จากนั้นจึงนำมาผสมเบลนด์กับเมล็ดอาราบิก้าบราซิลแบบ Natural Process และฮอนดูรัส เพื่อเสริมรสชาติและกลิ่นให้มีความโดดเด่นขึ้น
- ผลลัพธ์ที่ได้คือกาแฟคั่วกลางไปทางเข้ม มีบอดี้หนักพอประมาณ ไม่เข้มจนเกินไป ให้รสชาติเข้มข้น พร้อมกลิ่นหอมละมุนของดาร์กช็อกโกแลต ปนอัลมอนด์ เจือกลิ่นหอมของวนิลาและบัตเตอร์สก๊อต แวะเวียนให้รู้สึกอบอุ่น
- ด้วยรสชาติที่ไม่ขมเกินไป จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบอดี้กาแฟปานกลาง แต่อยากได้รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมชวนรื่นรมย์ สามารถดื่มได้ทั้งแบบผสมนมหรือดื่มเพียวแบบไลท์ๆ ก็ยังคงได้รับความกลมกล่อมของรสชาติ
- นอกจากจะอร่อยกลมกล่อมเหมาะกับทุกโอกาสแล้ว กาแฟแคปซูลนัตตี้เบลนด์ยังมาในรูปแบบที่สะดวกต่อการบริโภค โดยบรรจุอยู่ในแคปซูลราคา เพียงกล่องละ 220 บาทเท่านั้น ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคาสำหรับผู้รักกาแฟที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ดื่มกาแฟหลากหลายรสชาติ
กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย นัตตี้ เบลนด์กับวงล้อกาแฟ
- กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย นัตตี้ เบลนด์ หากเทียบกับวงล้อกาแฟแล้วจะได้สีหลักคือ สีน้ำตาล (Brown/Roast) จากการคั่วในระดับกลางถึงเข้ม โทนดาร์คโกโก้ ช็อกโกแลต ปนอัลมอนด์ รวมถึงกลุ่มความหวาน (Sweet) ที่ได้กลิ่นหอมและรสชาติโทนน้ำตาล คาราเมล และวนิลาเบาๆ
3. กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ฟรุตตี้ เบลนด์ (Punthai Coffee Capsule - Fruity Blend)
- กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ฟรุตตี้ เบลนด์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจสำหรับคนรักกาแฟที่มองหารสชาติแปลกใหม่ ผสมผสานความสดชื่นจากผลไม้เปรี้ยวหวาน
- เริ่มต้นจากเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยคุณภาพดี ผ่านการคั่วในระดับอ่อนถึงปานกลาง เพื่อรักษากลิ่นหอมธรรมชาติของเมล็ดไว้ให้มากที่สุด จากนั้นจึงนำมาผสมเบลนด์เข้ากับเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากโคลัมเบียและเอธิโอเปีย ซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Natural เพื่อดึงรสชาติผลไม้ออกมาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
- ด้วยสูตรพิเศษนี้ ฟรุตตี้เบลนด์จึงมีรสชาติที่แตกต่างจากกาแฟทั่วไป ด้วยความสว่างแบบ Bright Acidity ที่มอบความสดชื่นและรสเปรี้ยวอมหวานของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ลูกพรุน และพีช มีความเป็น Floral อยู่ใน Aftertaste ปลายๆ
- รสชาติพิเศษนี้ทำให้ฟรุตตี้เบลนด์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดื่มแบบกาแฟดำ ที่จะได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ ผสมผสานระหว่างความเปรี้ยวสดชื่นของผลไม้ และความนุ่มนวลของดอกไม้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์ชิมกาแฟสไตล์ใหม่ที่แตกต่าง
- ดื่มด่ำรสชาติพรีเมียมที่มาพร้อมความสะดวกและคุ้มค่าของกาแฟแคปซูล ในราคาเพียงกล่องละ 220 บาทเท่านั้น
กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ฟรุตตี้เบลนด์กับวงล้อกาแฟ
- กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ฟรุตตี้เบลนด์ หากเทียบกับวงล้อกาแฟแล้วจะได้สีหลัก คือ สีแดง (Red/Fruity) มีกลิ่นหอมและรสชาติความเปรี้ยวสดชื่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ลูกพรุน และพีช
เมื่อเรารู้ลึกรู้จริงเรื่องสีของวงล้อกาแฟ และสามารถวิเคราะห์กาแฟจากการดมกลิ่นและชิมแล้ว จึงทำให้เราสามารถเลือกกาแฟที่ชื่นชอบได้ง่ายขึ้นโดยสังเกตได้จาก Taste Note ที่ถูกระบุลงไว้บนฉลากของบรรจุภัณฑ์ของกาแฟและนำมาเทียบกับวงล้อกาแฟนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟ กาแฟคั่วบด กาแฟแคปซูล ต่อจากนี้เราจะได้ดื่มกาแฟที่ตรงใจเราสุดๆ อย่างกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยที่ไม่ได้มีแค่ความอร่อย ยังเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟแคปซูลที่ได้รับการออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยทุกส่วนประกอบตั้งแต่แคปซูล ฝาปิด ไปจนถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ ล้วนผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% ช่วยลดขั้นตอนและพลังงานในการกำจัดขยะ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้รักสิ่งแวดล้อม มาช่วยกันรักษ์โลกกับพันธุ์ไทยกันเถอะ อ่านบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่บล็อกกาแฟพันธุ์ไทย หรือจะดูรายละเอียดเมนูกาแฟบนเว็บไซต์พันธุ์ไทย และสั่งเครื่องดื่มส่งถึงบ้านได้ที่แอปเดลิเวอรี่ชั้นนำ
อ้างอิง:
- คำแปลและความหมาย Coffee Taster's Flavor Wheel - nlcoffee
- รู้จักกับ 'วงล้อรสชาติกาแฟ' ตัวช่วยที่ทำให้การดื่มกาแฟสนุกขึ้น!