12 เทคนิคถ่ายรูปอาหาร ง่ายๆ ด้วยมือถือ ถ่ายอย่างไรให้ดูน่ากิน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียได้กลายเป็นงานอดิเรกของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะการถ่ายรูปอาหาร โดยไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพอาหารเพื่อแชร์ในโซเชียลมีเดียหรือเพื่อเก็บเป็นความทรงจำส่วนตัวก็ตาม แต่บางครั้งรูปภาพที่ถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนกลับไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด สมัยก่อน หากเราต้องการรูปที่ปังๆ ก็จะต้องถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปแบบมืออาชีพเท่านั้น แต่ไม่สมัยนี้เพียงแค่สมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ก็สามารถถ่ายรูปอาหาร รวมไปถึงวิวทิวทัศน์หรือภาพผู้คนได้อย่างสวยงาม วันนี้พันธุ์ไทยจะมาแชร์เทคนิคการถ่ายรูปอาหารด้วยมืออย่างไรให้ปัง ฉบับถ่ายง่ายๆ ไม่ต้องเป็นช่างภาพมืออาชีพก็ถ่ายได้
1. เรียนรู้การใช้งานจุดตัด 9 ช่อง
บางคนถ่ายรูปด้วยมือถือโดยไม่ได้เปิดเส้นกริดบนกล้องถ่ายรูปของมือถือ แต่รู้หรือไม่ว่าเส้นกริดนั้นช่วยสร้างความสมดุลให้รูปภ่าพได้เป็นอย่างดี
สำหรับมือใหม่ที่กำลังฝึกถ่ายรูปอาจยังไม่คุ้นเคยกับหลักการใช้ "จุดตัด 9 ช่อง" ซึ่งเป็นเทคนิคที่สำคัญในการจัดองค์ประกอบของรูปภาพ การใช้เทคนิคนี้จะช่วยให้ภาพถ่ายดูมีความสมดุลและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยจะแบ่งภาพออกเป็น 3 ส่วนในทั้งแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งรวมเป็น 9 ส่วนเท่าๆ กัน และจะใช้จุดตัด 4 จุดซึ่งเป็นจุดสนใจหลักของภาพ ซึ่งทำให้ตัวแบบโดดเด่นมากขึ้น
สมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นมักมีฟังก์ชัน "เส้นกริด” และ “จุดตัดเก้าช่อง" ในหน้าตั้งค่าของกล้อง บางรุ่นอาจเรียกว่า "ตาราง" หรือ "เส้น" และบางรุ่นอาจมีแบบอื่นเช่นเส้นแสดงสัดส่วนทอง การใช้ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งภาพให้ดูน่าสนใจและมีความสมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพอาหารของคุณอยู่จุดกึ่งกลางของภาพ หรือ อยู่ตำแหน่งที่คุณต้องการ แม้ว่ามือใหม่ก็สามารถฝึกใช้งานได้อย่างง่ายดาย
2. ถ่ายรูปแบบมุม Top View
เทคนิคง่ายๆ ในการถ่ายรูปอาหารดูโดดเด่นคือการใช้มุมถ่ายแบบ top-down หรือการถ่ายรูปจากด้านบนลงมา โดยเน้นให้เห็นทั้งจานอาหารและองค์ประกอบต่างๆ ของเมนู เป็นการรวมอาหารแต่ละจานให้อยู่ในเฟรมได้มากที่สุด ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับรูปภาพอาหาร และทำให้อาหารดูน่ากินมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญควรระวังไม่ถ่ายจานอาหารใกล้มากจนเกินไป ควรเว้นพื้นที่ว่างระหว่างจานและโต๊ะ เพื่อจะได้มองเห็นการจัดวางจานที่โดดเด่น นอกจากนี้การใช้เทคนิคนี้ยังทำให้สามารถจัดเรียงภาพง่ายขึ้น
3. ไม่ควรใช้แฟลช
บางครั้งเมื่ออยู่ในร้านอาหาร บรรยากาศภายในร้านอาจมืด ไม่ได้เปิดไฟสว่างไสวอย่างที่คิด ซึ่งอาจทำให้การถ่ายภาพอาหารเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าเดิม แต่การใช้แฟลชไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม เพราะไม่เพียงแต่จะรบกวนคนในร้าน แต่ยังส่งผลให้ภาพดูแข็งกระด้างและไม่ธรรมชาติ สีสันของอาหารก็จะดูดร็อปลง และดูไม่น่ารับประทาน หากคุณเจอบรรยากาศในร้านอาหารที่มืดจนเกินไป การปรับค่า ISO หรือ Exposure อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการชดเชยแสงที่ขาดหายไป ซึ่งจะช่วยเสริมสว่างให้กับภาพได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องใช้แฟลช ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ได้ภาพอาหารที่สวยงามและดูน่ารับประทานมากกว่า และไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นอีกด้วย
4. ใช้ Night Mode ถ่ายภาพอาหารในที่มืด
ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนหลายรุ่นได้ติดตั้งโหมด Night Mode หรือโหมดสำหรับถ่ายภาพกลางคืนมาให้ด้วย โหมดนี้ควรถูกเปิดใช้งานเมื่อต้องถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือมืด เนื่องจากจะช่วยให้ภาพที่ได้มีความสว่างเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเปิดแฟลช และสามารถจับรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
เทคโนโลยีของ Night Mode จะทำงานโดยการรวบรวมข้อมูลจากการถ่ายภาพหลายๆ ภาพแล้วนำมาประมวลผลรวมกัน ช่วยลดสัญญาณรบกวนและเพิ่มรายละเอียดของภาพให้มากขึ้น ทำให้แม้จะถ่ายในสภาพแสงน้อย ก็ยังคงได้ภาพที่คมชัด สว่าง และมีรายละเอียดครบถ้วน
ดังนั้น วิธีถ่ายรูปอาหารในสถานที่แสงสว่างไม่เพียงพอ การเปิดใช้งาน Night Mode จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ได้ภาพรูปอาหารให้น่ากิน
5. เน้นแสงธรรมชาติ
สำหรับการถ่ายภาพอาหาร แสงธรรมชาติคือปัจจัยสำคัญที่สุด เนื่องจากแสงธรรมชาติช่วยให้สีสันของอาหารดูสดใหม่และน่ารับประทานมากที่สุด ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้ใช้แสงเพิ่มเติมจากไฟฟ้า เพราะอาจทำให้สีสันของอาหารบิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริง วิธีที่ดีที่สุดคือการเลือกนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่าง เพื่อให้แสงธรรมชาติจากภายนอกส่องถึงอาหาร ด้วยวิธีนี้จะทำให้ได้ภาพอาหารที่สวยงาม สีสันสดใส และดูน่ารับประทานที่สุด การถ่ายภาพโดยอาศัยแสงธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพอาหาร
6. หาช่วงเวลาที่เหมาะกับการถ่าย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพ คือช่วงเช้าก่อน 10 โมงเช้า หรือช่วงบ่ายตั้งแต่ 3 โมงเป็นต้นไป เนื่องจากองศาของแสงช่วงเวลาดังกล่าวจะสร้างมิติและน้ำหนักให้กับภาพ ทำให้ภาพดูมีลักษณะไม่แบนเฉย
นอกจากนี้ แสงในช่วงเวลาดังกล่าวยังช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูน่าสนใจ แม้แต่หน้าบ้านของคุณก็อาจดูเหมือนร้านกาแฟเก๋ๆ ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นการจับโมเมนต์แสงที่เหมาะสมจะช่วยเสริมคุณภาพและสร้างบรรยากาศให้กับภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นช่วงเวลาตอนเช้าและบ่ายคำจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
7. ไม่ควรถ่ายแบบซูม
ฟังก์ชันซูมในกล้องสมาร์ทโฟนนั้นอาจดูเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีความสำคัญมากนักสำหรับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะการซูมแบบดิจิทัลซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพของภาพด้อยลง ทำให้ภาพแตกและขาดความคมชัด นอกจากนี้ยังเพิ่มความไวต่อการสั่นไหวของมือขณะถ่ายรูปอาหารอีกด้วย หากต้องการถ่ายภาพอาหารแบบชิดใกล้ วิธีที่ดีที่สุดคือการเคลื่อนกล้องเข้าไปใกล้วัตถุมากกว่าการใช้ฟังก์ชันซูม ด้วยวิธีนี้จะช่วยรักษาคุณภาพของภาพและลดปัญหาการสั่นไหวได้เป็นอย่างดี
8. อย่าลืมปรับความละเอียด
หลายครั้งการตั้งค่าความละเอียดของกล้องในสมาร์ทโฟนจะไม่ได้ถูกตั้งไว้ที่ค่าสูงสุดตามที่เครื่องรองรับ ดังนั้นก่อนการถ่ายภาพ ควรตรวจสอบและปรับค่าความละเอียดให้อยู่ที่ระดับสูงสุดก่อน การกระทำนี้จะช่วยให้ได้ภาพที่มีความคมชัดและรายละเอียดสูง ซึ่งจะทำให้ภาพที่ได้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น เนื่องจากจะสามารถจับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของวัตถุได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพอาหาร ทิวทัศน์ หรือภาพใกล้ตัว การตั้งความละเอียดให้อยู่ในระดับสูงสุดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนการถ่ายภาพทุกครั้ง
9. ใช้ Portrait Mode
หากต้องการให้อาหารเป็นจุดสนใจหลักของภาพถ่าย ควรเลือกใช้โหมด Portrait Mode ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้อาหารโดดเด่นมากขึ้น โดยจะลดรายละเอียดของพื้นหลังและบรรยากาศรอบข้างให้เบลอ ทำให้ภาพอาหารของคุณกลายเป็นจุดรวมสายตาที่สำคัญที่สุดในภาพ
โหมด Portrait Mode ทำงานโดยใช้เทคนิคการปรับความลึกวงแคบ (shallow depth of field) ซึ่งจะทำให้วัตถุที่อยู่ในจุดโฟกัสคมชัด ในขณะที่พื้นหลังจะเบลอและไม่คมชัดนัก ช่วยดึงดูดสายตาผู้ชมไปที่จุดสนใจหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพอาหารที่ต้องการให้อาหารดูน่ารับประทานและโดดเด่นอย่างยิ่ง
10. แต่งภาพอาหารให้ดูน่าทาน
การใช้ฟิลเตอร์ตกแต่งภาพนั้นเป็นเรื่องของรสนิยมและความชอบส่วนบุคคล บางคนอาจชอบให้ภาพดูธรรมชาติ ในขณะที่บางคนอาจชื่นชอบการใช้ฟิลเตอร์เพื่อสร้างบรรยากาศหรือสไตล์ที่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม การปรับแต่งภาพด้วยการปรับแสง สี และความคมชัดนั้นมีข้อดีในการช่วยยกระดับคุณภาพของภาพให้ดูดียิ่งขึ้น
ในปัจจุบันนี้มีแอปพลิเคชันแต่งรูปฟรีให้เลือกใช้งานได้มากมาย ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันการปรับแต่งภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับแสง สี ความคมชัด ตลอดจนการใส่ฟิลเตอร์ต่างๆ ด้วยแอปเหล่านี้ คุณจะสามารถแต่งแต้มภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว
การใช้แอปแต่งรูปฟรีจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากพูดถึงวิธีถ่ายรูปอาหารให้สวยด้วยมือถือ ทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังให้อิสระในการสร้างสรรค์ผลงานตามรสนิยมของตนเองได้อีกด้วย
11. เลือกพื้นหลังให้เข้ากับสีจานและอาหาร
พื้นหลังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของภาพ ดังนั้นการเลือกสีของพื้นหลังให้แมชกับสีจานและอาหาร จะทำให้อาหารดูโดดเด่นและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น โต๊ะไม่ควรมีลวดลายมากจนเกินไป เพราะจะเป็นตัวดึงจุดโฟกัสจนทำให้อาหารไม่ได้เป็นตัวเอก
สีพื้นหลังควรตัดกันกับสีของอาหาร เพื่อให้อาหารโดดเด่น เช่น ถ้าอาหารมีสีเข้ม ให้เลือกพื้นหลังสีอ่อน หรือกลับกัน หากอาหารมีสีสันหลายสี ให้เลือกพื้นหลังสีพื้นธรรมชาติ เช่น สีครีม น้ำตาล หรือสีเทาอ่อนๆ พื้นหลังลายวินเทจ อิฐ ไม้เก่า หรือกระดาษหนังสือก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ระวังอย่าให้พื้นหลังโดดเด่นกว่าอาหาร สำหรับอาหารที่มีสีสันเข้ม แนะนำพื้นหลังสีขาวหรือสีพาสเทลอ่อนๆ เพื่อไม่ให้ภาพดูหนักเกินไป
สรุปได้ว่าการเลือกพื้นหลังที่ดี จะช่วยเสริมสีสันและรายละเอียดของอาหารให้โดดเด่น ดึงดูดสายตา และกระตุ้นความอยากรับประทานได้เป็นอย่างดี
12. ถ่ายภาพคนคู่กับอาหาร
การถ่ายภาพอาหารควบคู่กับการมีนางแบบหรือนายแบบประกอบในภาพร่วมด้วยนั้น จะช่วยให้ลูกค้าสามารถจินตนาการและเข้าใจภาพรวมของบริการได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับแพ็กเกจประเภท Staycation ที่ครอบคลุมทั้งห้องพัก ห้องอาหาร และสระว่ายน้ำ การมีภาพนางแบบที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆ ในมุมและแสงที่สวยงาม จะช่วยสร้างบรรยากาศและกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากมาใช้บริการตามจริง
นอกจากนี้ การมีนางแบบหรือนายแบบประกอบในภาพ ยังเป็นจุดขายสำคัญในการโปรโมทผ่านสื่อโซเชียลมีเดียด้วย เนื่องจากภาพที่มีตัวละครจะช่วยดึงดูดสายตาผู้พบเห็นได้มากกว่าภาพอาหารเพียงอย่างเดียว ทำให้คนสนใจและเข้าถึงโปรโมชันได้ง่ายยิ่งขึ้น
ดังนั้นการผสมผสานทั้งภาพอาหารและนางแบบนายแบบ จะเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการสร้างจินตนาการและความน่าสนใจให้กับแพ็กเกจหรือบริการของคุณ ทั้งในมุมของภาพลักษณ์และการตลาด
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการสอนถ่ายรูปอาหารด้วยมือถือและเทคนิคถ่ายรูปอาหารด้วยมือถืออย่างให้น่ารับประทานจากพันธุ์ไทย ถึงแม้ว่าการถ่ายรูปอาหารให้สวยน่าทานจะเป็นเรื่องที่ดูต้องพิถีพิถัน แต่หากคุณใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นทุกตอนในการถ่ายรูป เหมือนที่เราใส่ใจชงกาแฟและเครื่องดื่มทุกเมนูของพันธุ์ไทย รับรองว่าภาพอาหารของคุณที่ถ่ายด้วยมือถือจะกลายเป็นภาพที่ดูเหมือนถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพแบบโปรโดยช่างถ่ายภาพมืออาชีพอย่างไรอย่างนั้น อ่านบทความไลฟ์สไตล์น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย และโปรโมชั่นของกาแฟพันธุ์ไทยได้ที่เพจเฟซบุ๊คกาแฟพันธุ์ไทย
อ้างอิง:
- 7 เทคนิคถ่ายรูปอาหารด้วยมือถือให้ดูดีน่ากิน แชร์ลงโซเชียลแล้วเพื่อนหิวตาม! :: Thaimobilecenter.com
