ร้านกาแฟพันธุ์ไทย แฟรนไชส์น่าลงทุน ปี 2024 งบน้อยแต่ปังแน่นอน
ในปี 2024 นี้ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่มีงบประมาณการลงทุนไม่มากนัก แต่ต้องการเริ่มต้นลงุทนธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง มีหลากหลายธุรกิจแฟรนไชส์น่าสนใจที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล แต่กลับมีแนวโน้มที่จะทำรายได้และผลกำไรได้อย่างงดงาม หากคุณพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเอง นักธุรกิจมือใหม่หลายคนมีเป้าหมายในการเปิดเแฟรนไชส์ แต่จะเปิดแฟรนไชส์อะไรดีนั้น พันธุ์ไทยชวนมาลงทุนแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย ด้วยงบลงทุนไม่สูงมาก แต่ถือเป็นธุรกิจร้านกาแฟที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปีนี้ ด้วยแนวโน้มการเติบโตและความนิยมที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและได้ผลตอบแทนอย่างงดงาม
ข้อควรรู้ก่อนการลงทุนแฟรนไชส์
จะซื้อแฟรนไชส์ต้องรู้อะไรบ้าง?
เมื่อพิจารณาการซื้อแฟรนไชส์ มีหลายประเด็นสำคัญที่ควรทำความเข้าใจและประเมินก่อนการลงทุน ดังนี้
1. ทำความเข้าใจธุรกิจแฟรนไชส์และแบรนด์อย่างละเอียด ศึกษาประวัติ แนวคิด ผลิตภัณฑ์/บริการ กลยุทธ์การตลาด และความสำเร็จที่ผ่านมา
2. สำรวจและประเมินตลาดในพื้นที่เป้าหมาย วิเคราะห์คู่แข่ง ความต้องการของลูกค้า และศักยภาพของธุรกิจ
3. พิจารณาเงื่อนไขสัญญาแฟรนไชส์อย่างละเอียด ค่าธรรมเนียมต่างๆ สิทธิและข้อจำกัด ระยะเวลาสัญญา การต่ออายุ ฯลฯ
4. ประเมินต้นทุนเริ่มต้น ได้แก่ ค่าสิทธิ ค่าลงทุนเครื่องมืออุปกรณ์ สต็อกสินค้าเริ่มต้น ปรับปรุงสถานที่ ฯลฯ
5. วางแผนทางการเงิน ประมาณการรายรับ-รายจ่าย กระแสเงินสด และผลตอบแทนการลงทุน
6. พิจารณาบุคลากรและการจัดการ การบริหารทรัพยากรบุคคล ความรู้และทักษะที่จำเป็น
7. สำรวจระบบสนับสนุน การฝึกอบรม การบริหารจัดการจากผู้ให้แฟรนไชส์
8. ประเมินความเสี่ยง วางแผนและมีกลยุทธ์รองรับ
การตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลและการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับความพร้อมและสามารถบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้
เกณฑ์การเลือกธุรกิจแฟรนไชส์น่าลงทุน
1. ชื่อเสียงหรือแบรนด์ (Brand)
- แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จะช่วยดึงดูดลูกค้าและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความคุ้นเคยและไว้วางใจในตราสินค้านั้นแล้ว
- ภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ เช่น การมีจุดยืนทางการตลาดที่โดดเด่น มีคุณค่าและอัตลักษณ์เฉพาะตัว จะทำให้ธุรกิจนั้นแตกต่างจากคู่แข่งและจดจำได้ง่ายในสายตาของลูกค้า
- สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้ผู้สนใจเข้ามาลงทุน เนื่องจากหมายถึงโอกาสประสบความสำเร็จที่สูงขึ้น
- อย่างไรก็ตาม การสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และการรักษามาตรฐานคุณภาพของสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้น แบรนด์ที่แข็งแกร่งจึงเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จให้สูงขึ้น
2. ระบบ (System)
- ประสิทธิภาพของระบบ - ระบบต้องออกแบบมาให้สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และควบคุมต้นทุนได้ดี
- ความง่ายในการเรียนรู้ - ระบบที่ดีจะต้องเข้าใจและปฏิบัติตามได้ง่าย ไม่ซับซ้อนจนเกินไป เพื่อให้ผู้ลงทุนแฟรนไชส์สามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
- การสนับสนุนและอบรมจากผู้ให้แฟรนไชส์ - บริษัทแม่ควรมีโปรแกรมสนับสนุนและอบรมที่ดี เพื่อถ่ายทอดความรู้ ขั้นตอนการทำงาน รวมถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างละเอียด
- ระบบสารสนเทศ - การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการและเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบโดยรวม
- การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง - ระบบที่ดีต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ระบบการดำเนินงานที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยง สร้างมาตรฐานการทำงาน และควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จมากขึ้น
3. ผลกำไร (Profit)
- ต้นทุนการลงทุนเริ่มต้น - ต้นทุนเริ่มต้นไม่ควรสูงเกินไปจนเป็นอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจ โดยปกติแฟรนไชส์จะมีต้นทุนการลงทุนต่ำกว่าการเริ่มธุรกิจใหม่ทั่วไป
- รายได้และกำไรที่ดี - ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ดีควรสามารถสร้างรายได้และกำไรที่คุ้มค่ากับการลงทุน มีอัตรากำไรสุทธิในระดับที่น่าพอใจ
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน - ควรพิจารณาว่าธุรกิจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประจำในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงเกินไปจนกระทบต่อกำไร
- ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ - ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทแม่ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการสนับสนุนและการใช้แบรนด์
- ศักยภาพการเติบโต - ควรเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและขยายได้ง่าย เพื่อสร้างรายได้และกำไรที่มากขึ้นในระยะยาว
การวิเคราะห์ในประเด็นเหล่านี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของโอกาสทางธุรกิจ ความสามารถในการทำกำไร และผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสม
4. การคืนทุน (Return)
- ระยะเวลาคืนทุนสั้น หมายถึงความเสี่ยงต่ำ ถ้าสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น ย่อมหมายถึงความเสี่ยงในการลงทุนน้อยลง และช่วยให้มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการขยายธุรกิจต่อได้เร็วขึ้น
- เป้าหมายคืนทุนภายในครึ่งอายุสัญญา การตั้งเป้าให้ระยะเวลาคืนทุนไม่เกินครึ่งหนึ่งของอายุสัญญาแฟรนไชส์ ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าธุรกิจนั้นมีศักยภาพสูง และผู้ลงทุนจะสามารถทำกำไรได้อย่างคุ้มค่าในระยะเวลาที่เหลือ
- ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาคืนทุน
- ความสามารถในการทำยอดขาย
- อัตราค่าใช้จ่ายดำเนินงาน
- ขนาดของเงินลงทุนเริ่มแรก
- อัตรากำไรสุทธิ
- การคำนวณและประมาณการอย่างรอบคอบ ก่อนลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนวณและประมาณการระยะเวลาคืนทุนอย่างรอบคอบ โดยอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และวิเคราะห์แบบจำลองทางการเงินต่างๆ
การคืนทุนได้เร็วจะทำให้ธุรกิจมีสภาพคล่องและโอกาสในการเติบโตมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนประเมินโอกาสความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ได้อย่างรอบด้าน ทั้งในเรื่องแบรนด์ ระบบการดำเนินงาน ผลตอบแทน และระยะเวลาคืนทุน ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด
ที่มาของกาแฟพันธุ์ไทย
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ ไทย เราขอแนะนำประวัติคร่าวๆ ของกาแฟพันธุ์ไทยเสียก่อน กาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันพีทีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งก่อกำเนิดสาขาแรกขึ้นที่สาขาบางปะหันเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 กาแฟพันธุ์ไทยถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่จะสร้างแบรนด์กาแฟที่มีต้นกำเนิดจากความประทับใจในเอกลักษณ์และจิตวิญญาณแบบไทย ผสมผสานกับความทันสมัย สากล และไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยได้อย่างกลมกลืน เอกลักษณ์ของแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทยจึงเป็นการผสมผสานระหว่างเสน่ห์ของความเป็นไทยและความเรียบง่ายทันสมัย
โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติอร่อยแปลกใหม่ และหาทานได้ยาก อีกทั้งยังสนับสนุนเกษตรกรไทยโดยจัดหาวัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เช่น น้ำตาลดอกมะพร้าวจากอัมพวา ตาลโตนดจากสงขลา และส้มมะปี๊ดจากจันทบุรี เป็นต้น
ปัจจุบันกาแฟพันธุ์ไทยมีสาขากว่า 1,000 แห่ง โดยร้อยละ 60 ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน และอีกร้อยละ 40 เป็นสาขานอกสถานีบริการน้ำมัน โดยตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 400 สาขา ภายในปี 2567 และขยายเพิ่มอีกประมาณ 1,000 สาขาต่อปี นับตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเป็น 5,000 แห่งภายในปี 2570 นี้
แฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย แฟรนไชส์น่าลงทุน ปี 2024
กลยุทธ์ของแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย แฟรนไชส์น่าลงทุน
1. สร้างโมเดลแฟรนไชส์ทั่วประเทศ
- กาแฟพันธุ์ไทยตั้งเป้าหมายที่จะเปิดสาขาให้ได้อย่างน้อย 1 อำเภอ 1 สาขา
- การเลือกทำเลสาขาจะคำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่และต้นทุน แบ่งเป็นสาขาในสถานีบริการน้ำมัน 60% และนอกสถานีบริการน้ำมัน 40% ในอนาคตสัดส่วนจะเป็นสาขาของกาแฟพันธุ์ไทย 20% และสาขาแฟรนไชส์ 80%
- แฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทยจะมี 5 รูปแบบ ได้แก่ คิออส ฟู้ดทรัค เทรลเลอร์ บิลด์อิน และสแตนอโลน ราคาตั้งแต่ 1.25-2.5 ล้านบาทต่อสาขา สัญญา 2-3 ปี โดยค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่าการตลาดรวม 6%
2. สร้างโมเดลแฟรนไชส์
มีเครื่องดื่มแล้ว ก็ต้องมีของทานเล่นถึงจะดึงดูดลูกค้า กลยุทธ์ของแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทยคือการเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มไม่ใช่เครื่องดื่ม หรือ Non-Beverage เพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิล ได้แก่
- เบเกอรีและขนมอบ (Bakery & Pastry)
- ขนมแปรรูปจากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ (Pack Food)
- สินค้าที่ระลึกและของพรีเมียมจากแบรนด์ (Merchandising)
- อุปกรณ์การชงกาแฟ เมล็ดกาแฟและกาแฟดริปพร้อมดื่มที่บ้าน (Home Coffee Product)
การขยายไลน์สินค้าไปสู่กลุ่มใหม่นอกเหนือจากเครื่องดื่ม จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าและกระตุ้นยอดขายต่อบิลให้สูงขึ้น ปัจจุบันยอดขายสินค้ากลุ่ม Non-Beverage มีสัดส่วนประมาณ 30%
นอกจากนี้ การนำสินค้าท้องถิ่นและของที่ระลึกมาจำหน่าย ก็ยังเป็นการสนับสนุนชุมชนและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย สอดคล้องกับอัตลักษณ์แบรนด์ที่ต้องการผสมผสานความเป็นไทยเข้าไว้
3. ‘วัตถุดิบท้องถิ่น’ ตัวชูโรงของกาแฟพันธุ์ไทย
- กลยุทธ์สำคัญ ที่เป็น DNA ของกาแฟพันธุ์ไทยคือ การนำวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และหาทานได้ยากของไทยมาพัฒนาและสร้างสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
- การใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ นับเป็นจุดแข็งที่ช่วยสร้างความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจจากลูกค้า รวมถึงสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นด้วย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดและอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับความร่วมสมัย
4. ขยายและรักษาฐานลูกค้าสมาชิก Max Card
- ปัจจุบันฐานลูกค้าสมาชิก Max Card มีจำนวนกว่า 22 ล้านราย ซึ่งจะช่วยให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และพัฒนากลยุทธ์ในการสร้างยอดขายและเพิ่มความถี่ในการใช้บริการ
- การขยายฐานสมาชิก Max Card Plus หรือบัตรแดง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าประจำที่มี Brand Royalty สูง และมีกำลังซื้อสูง
- นำข้อมูลฐานสมาชิกมาพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เสิร์ฟสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภค
ด้วยกลยุทธ์ที่เรียกได้ว่าเป็นขุมพลังที่โดดเด่น ช่วยชูโรงให้กาแฟพันธุ์ไทยกลายเป็นแบรนด์กาแฟชั้นนำแล้ว ก็ยังทำให้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยกลายเป็นแฟรนไชส์น่าลงทุนไปโดยปริยาย เพราะนอกจากมีโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจแล้ว ขั้นตอนการลงทุนแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทยตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจ มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงควรลงทุนแฟรนไชส์กับกาแฟพันธุ์ไทยกันนะ วันนี้เรามีคำตอบให้คุณแล้ว
ทำไมถึงควรลงทุนแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย?
1. ลงทุนง่าย เติบโตไปพร้อมแบรนด์พันธุ์ไทย คุ้มค่าการลงทุน
การเป็นแฟรนไชส์ของพันธุ์ไทยไม่ต้องลงทุนสูงมาก แต่ยังได้รับสิทธิประโยชน์และการสนับสนุนอย่างครบวงจรจากบริษัทแม่ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับแบรนด์ชั้นนำอย่างพันธุ์ไทย
2. พร้อมสอนงาน ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็เปิดร้านได้
แม้ผู้สนใจจะไม่มีประสบการณ์ด้านกาแฟหรือร้านค้ามาก่อน พันธุ์ไทยก็พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนในทุกด้าน ตั้งแต่การคัดเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบร้าน จนถึงการบริหารจัดการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดแฟรนไชส์และดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
3. มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาการดำเนินกิจการ
นอกจากการสนับสนุนด้านต่างๆ แล้ว พันธุ์ไทยยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและแนะนำในการดำเนินกิจการ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมเปิดร้าน จนถึงการบริหารจัดการทั้งด้านการตลาด การจัดการสินค้า และการบริการลูกค้า เพื่อให้แฟรนไชส์ประสบความสำเร็จ
4. ทราบผลการสมัครอย่างรวดเร็วและชัดเจน
ขั้นตอนการสมัครเป็นแฟรนไชส์ของพันธุ์ไทยนั้นรวดเร็วและมีความชัดเจน เมื่อผู้สนใจยื่นเรื่องสมัครจะสามารถทราบผลการพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ตัดสินใจและเริ่มดำเนินธุรกิจได้ทันที
โอกาสการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีงบประมาณไม่สูงนักแต่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้นมีให้เลือกหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจบริการ หรือธุรกิจค้าปลีกประเภทต่างๆ ล้วนมีโอกาสเติบโตและทำรายได้อย่างงดงาม แฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย ถือเป็นแฟรนไชส์น่าลงทุนที่น่าจับตามองในปีนี้ ถึงแม้ค่าซื้อแฟรนไชส์จะเริ่มต้นเพียงไม่กี่แสนบาท แต่แฟรนไชส์พันธุ์ไทยมีศักยภาพสูงที่จะเติบโตและทำรายได้คืนทุนอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนรายย่อยจึงไม่ควรโอกาสที่จะลงทุนแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย สำหรับผู้ที่พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจในปีนี้ สำหรับใครที่ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ร้านกาแฟพันธุ์ไทย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์พันธุ์ไทย หรือต้องการอ่านเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการลงทุนแฟรนไชส์ สามารถติดตามได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย
อ้างอิง:
