ทำความรู้จักประเภทของเครื่องชงกาแฟ พร้อมข้อดีข้อเสีย
ในปัจจุบัน การชงกาแฟดื่มเองที่บ้านหรือที่ทำงานกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการซื้อกาแฟจากร้านทุกวันนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป หลายคนต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายพันบาทต่อเดือนเพียงแค่สำหรับกาแฟ ประกอบกับเสียเวลาในการเดินทางไปร้านอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การซื้อเครื่องชงกาแฟและกาแฟสำเร็จรูปมาชงเองที่บ้านหรือที่ทำงานจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย พันธุ์ไทยจึงขอแนะนำประเภทเครื่องชงกาแฟที่ใช่สำหรับคุณ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละเครื่อง เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจหากคุณต้องการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟ
ประโยชน์ของการชงกาแฟดื่มเอง
การชงกาแฟด้วยตนเองไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่สะดวกสบายและง่ายต่อการปรับแต่งรสชาติกาแฟให้เข้ากับความชอบส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีตามที่ต้องการ ด้วยประโยชน์เหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่การชงกาแฟด้วยตนเองกำลังเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน การชงกาแฟด้วยตนเองมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย การซื้อกาแฟจากร้านทุกวันนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่การชงกาแฟเองที่บ้านจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก
2. สะดวกสบาย คุณสามารถชงกาแฟได้ทุกเวลาที่ต้องการ โดยไม่ต้องเดินทางไปร้านหรือรอคิว
3. ควบคุมรสชาติได้ คุณสามารถปรับแต่งรสชาติกาแฟให้เข้ากับความชอบส่วนตัวของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นความหวาน ความเข้มข้น หรือส่วนผสมต่างๆ
4. เลือกใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดี คุณสามารถเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพดีตามที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟคั่วบด กาแฟคั่วเมล็ด หรือกาแฟสเปเชียลตี้
5. ลดขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม การชงกาแฟเองจะช่วยลดปริมาณขยะจากแก้วกาแฟใช้แล้วทิ้งและรักษาสิ่งแวดล้อมได้
6. ได้ใช้เวลาคุณภาพกับตนเอง การชงกาแฟเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ช่วยให้คุณได้มีเวลาพักผ่อนจากภารกิจประจำวัน
เห็นหรือไม่ว่าการชงกาแฟด้วยตนเองนั้นมีข้อดีหลายประการทั้งด้านประหยัดค่าใช้จ่าย ความสะดวกสบาย การควบคุมรสชาติ การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเมล็ดกาแฟของพันธุ์ไทย ที่เราคัดสรรมาให้คุณอย่างดี จากแหล่งเพาะปลูกกาแฟในประเทศไทย จากฝีมือเกษตรกรไทย นอกจากจะได้อุดหนุนวัตถุดิบพื้นบ้านแล้ว ยังได้ดื่มกาแฟคุณภาพอีกด้วย
ประเภทเครื่องชงกาแฟ แบบไหนที่ใช่คุณ
1. เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ
เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซถือเป็นระบบการชงกาแฟที่ซับซ้อนและมีอุปกรณ์มากที่สุด มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายแสนบาท การทำงานของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซนั้นค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็หมายถึงความสามารถในการควบคุมและปรับแต่งรสชาติกาแฟได้อย่างละเอียดยิบ
กระบวนการชงกาแฟเริ่มต้นด้วยการบดเมล็ดกาแฟด้วยเครื่องบดเมล็ดกาแฟ (Grinder) ที่มีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลายหมื่นบาท จากนั้นนำผงกาแฟใส่ในด้ามจับและฟิลเตอร์กาแฟ (Porta Filter) อัดผงกาแฟให้เรียบด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Tamper แล้วนำไปใส่ในเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ ระหว่างกระบวนการนี้ ผู้ชงสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณกาแฟ ปริมาณน้ำ ระดับความละเอียดของผงกาแฟ แรงดันในการอัด เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ดีพร้อมเสิร์ฟ
ข้อดีของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ
- ควบคุมและปรับแต่งรสชาติกาแฟได้อย่างละเอียด ทำให้ได้รสชาติกาแฟตรงตามที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณกาแฟ, ปริมาณน้ำ, ความละเอียดของการบดเมล็ด และแรงดันในการอัด
- เป็นงานอดิเรกที่สนุกและเพลิดเพลิน ผู้ชงสามารถเพลิดเพลินกับการค้นหาและทดลองใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงเมล็ดกาแฟที่ได้รับรางวัลระดับโลก ซึ่งแตกต่างจากเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลที่มีข้อจำกัดด้านเมล็ดกาแฟ
- ได้กาแฟสดที่ชงขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง มีรสชาติและกลิ่นหอมจากเมล็ดกาแฟสดใหม่อย่างแท้จริง
- ต้นทุนต่อแก้วถูกกว่าการซื้อจากร้าน เนื่องจากผู้ชงสามารถเลือกใช้วัตถุดิบตามงบประมาณและความต้องการของตนเองได้
- สามารถชงกาแฟจำนวนมากในแต่ละครั้ง บางรุ่นสามารถชงได้หลายร้อยแก้วต่อวัน เหมาะสำหรับการใช้งานแบบพิเศษหรือการจัดงานสังสรรค์
ข้อเสียของการใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ
- มีอุปกรณ์หลายชิ้นและขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน อาจทำให้เกิดความเลอะเทอะง่ายในระหว่างการชง นอกจากนี้ยังต้องมีการทำความสะอาดเครื่องอย่างละเอียดหลังการใช้งานทุกครั้ง
- ผู้ชงต้องมีประสบการณ์หรือผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี จึงจะสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น การบดเมล็ด การอัดกาแฟ และการปรับแต่งรสชาติได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติอร่อยตามต้องการ
- อุปกรณ์ชงกาแฟเอสเพรสโซที่มีคุณภาพดีนั้นมีราคาค่อนข้างสูง เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซยี่ห้อดังระดับพรีเมียมราคาเป็นแสน ส่วนเครื่องบดเมล็ดกาแฟคุณภาพสูงราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป
- เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซสามารถชงได้เพียงแค่กาแฟเอสเพรสโซและตีฟองนมเท่านั้น หากต้องการเมนูกาแฟชนิดอื่นๆ เช่น อเมริกาโน คาปูชิโน จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซเหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการลงลึกในรายละเอียดของรสชาติกาแฟ และต้องการปรับแต่งรสชาติให้ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
- ผู้ที่รักการชงกาแฟอย่างแท้จริง และพร้อมที่จะเรียนรู้ขั้นตอนการชงที่ค่อนข้างยุ่งยาก
- ร้านกาแฟทุกแห่ง ซึ่งต้องใช้เครื่องระบบเอสเพรสโซ 100% เพื่อให้ได้รสชาติเอสเพรสโซที่ดีที่สุด
- ผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการลงทุนในเครื่องชงและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ (ราคาตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท)
ข้อควรพิจารณาของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ
- ต้องใส่ใจและรักในกระบวนการชงกาแฟอย่างแท้จริง เนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและอุปกรณ์หลายชิ้น
- จำเป็นต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน เพื่อให้สามารถชงกาแฟได้อย่างมีคุณภาพ
- มีค่าใช้จ่ายสูงในการลงทุนซื้อเครื่องและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี
โดยสรุปแล้ว เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซเหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในโลกกาแฟอย่างแท้จริง มีงบประมาณเพียงพอ และพร้อมที่จะอุทิศเวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนการชงกาแฟด้วยความตั้งใจจริง
2. เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการผสมผสานข้อดีของเครื่องชงกาแฟประเภทต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัตินั้นจะจำลองการทำงานของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซมาเป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน
การทำงานของเครื่องชงกาแฟอัตโนมัตินั้นเริ่มจากการที่ผู้ใช้งานตั้งค่าหรือเลือกเมนูกาแฟที่ต้องการ จากนั้นเครื่องจะเริ่มบดเมล็ดกาแฟสดเป็นแก้วๆ ซึ่งทำให้ได้กาแฟที่สดใหม่อย่างแท้จริงในแต่ละแก้ว โดยผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้เมล็ดกาแฟได้อย่างอิสระ ไม่จำกัดเฉพาะแคปซูลเหมือนเครื่องบางประเภท
หลังจากบดเมล็ดแล้ว เครื่องจะเริ่มกระบวนการกลั่นกาแฟ โดยจำลองหลักการทำงานของเครื่องเอสเพรสโซ จากนั้นจะมีการเติมส่วนผสมลงไปให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ ในบางรุ่นก็สามารถตั้งค่าหรือโปรแกรมรสชาติกาแฟแก้วโปรดไว้ล่วงหน้าได้ด้วย
นอกจากความสะดวกสบายในการใช้งานแล้ว เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติยังช่วยสร้างความมั่นใจในด้านรสชาติ เนื่องจากมีความเสถียรในกระบวนการทำงานที่ควบคุมได้โดยอัตโนมัติ จึงสามารถคงคุณภาพของรสชาติกาแฟได้อย่างสม่ำเสมอ
ด้วยคุณสมบัติที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบาย รสชาติกาแฟสดที่มีคุณภาพ และความสามารถในการปรับแต่งได้อย่างอิสระ จึงไม่น่าแปลกใจที่เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อดีของเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
- ใช้งานง่าย เพียงเติมน้ำ เติมเมล็ดกาแฟ และกดเลือกเมนูที่ต้องการ ใครๆก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่ยากเย็น รวมถึงมีฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ
- อิสระในการเลือกใช้เมล็ดกาแฟตามความชอบได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
- ราคาต่อแก้วถูกกว่าเครื่องแบบใช้แคปซูลอย่างเห็นได้ชัด
- ได้กาแฟสดใหม่จากการบดเมล็ดในแต่ละแก้วอย่างแท้จริง
- รวดเร็ว ใช้เวลาในการชงไม่เกิน 1 นาที
- สามารถชงเอสเพรสโซได้ จากนั้นนำไปประกอบเป็นเมนูอื่นๆ เช่นเดียวกับการใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ
ข้อเสียของเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
- ราคาของเครื่องค่อนข้างสูงกว่าเครื่องชงกาแฟระบบแคปซูล โดยมีหลายแบรนด์ให้เลือก ซึ่งมีราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ จนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและฟังก์ชันของแต่ละรุ่น
- แม้จะสามารถปรับแต่งรสชาติได้ในระดับหนึ่ง แต่รสชาติกาแฟที่ได้อาจด้อยกว่ากาแฟที่ชงโดยบาริสต้ามืออาชีพที่ใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ เนื่องจากการควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยอาจไม่ละเอียดเท่า
- จำนวนแก้วกาแฟที่สามารถชงได้ในแต่ละวันจะน้อยกว่าเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็กถึงกลาง ไม่เหมาะกับปริมาณความต้องการสูง
- ระบบอัตโนมัติ แม้จะอำนวยความสะดวก แต่อาจทำให้ขาดกระบวนการเรียนรู้และความละเอียดอ่อนที่ได้จากการชงด้วยมือ
เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเหมาะกับใคร
- คนที่ชอบรสชาติกาแฟสดที่คั่วและบดเองมาจากเมล็ดกาแฟคุณภาพดี ซึ่งจะให้รสชาติที่อร่อยกว่ากาแฟแบบแคปซูล
- ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการชงกาแฟ เพียงแค่กดปุ่มก็สามารถชงกาแฟได้อย่างง่ายดาย
- ธุรกิจที่ต้องรับรองลูกค้าหรือมีการประชุม เช่น ออฟฟิศ ร้านกาแฟ เป็นต้น ช่วยให้สามารถชงกาแฟได้หลากหลายเมนูตามความต้องการของผู้ดื่ม
- สำนักงานหรือหน่วยงานที่มีพนักงานจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นจุดบริการกาแฟคุณภาพให้กับพนักงาน
ข้อควรพิจารณาของเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
- งบประมาณ: เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องชงกาแฟประเภทอื่นๆ จึงต้องพิจารณางบประมาณของคุณเอง
- ขนาดและพื้นที่ติดตั้ง: เครื่องบางรุ่นมีขนาดใหญ่ จึงต้องมีพื้นที่วางเครื่องที่เพียงพอ
- ความสามารถและฟังก์ชันการใช้งาน: เครื่องแต่ละรุ่นมีความสามารถแตกต่างกัน บางรุ่นชงได้เพียงเอสเพรสโซ บางรุ่นสามารถชงได้หลากหลายเมนู ต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ
- ความยากง่ายในการใช้งาน: บางรุ่นอาจมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน จำเป็นต้องศึกษาคู่มือการใช้งานก่อน
- การบำรุงรักษา: ต้องทำความสะอาดเครื่องเป็นประจำ บางรุ่นอาจต้องถอดชิ้นส่วนออกมาล้างทำความสะอาด
- ประสิทธิภาพการใช้งาน: พิจารณาเรื่องความเร็วในการชง คุณภาพของกาแฟ และการประหยัดพลังงาน
- แหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ: เครื่องบางรุ่นอาจจำกัดให้ใช้เมล็ดกาแฟจากแบรนด์เดียวกันเท่านั้น
3. เครื่องชงกาแฟแคปซูล
เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนรักกาแฟในยุคปัจจุบัน แถมราคาก็จับต้องได้ ไม่แพงเหมือนเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซหรือเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ โดยมีการนำเมล็ดกาแฟคุณภาพมาบดและบรรจุไว้ในแคปซูลพิเศษ ช่วยถนอมความสดและกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากกาแฟบดสดจะสูญเสียคุณภาพอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมในร้านกาแฟมืออาชีพที่จะบดเมล็ดกาแฟแก้วต่อแก้ว เพื่อให้ได้รสชาติที่คงความสดใหม่
การชงกาแฟด้วยเครื่องแบบแคปซูลจึงเป็นวิธีการที่สะดวกและง่ายดาย โดยเพียงใส่แคปซูลกาแฟลงในเครื่อง เครื่องจะเจาะฝาแคปซูลและสร้างแรงดันน้ำร้อนผ่านแคปซูล ทำให้ได้กาแฟรสเลิศราวกับการชงสดๆ แต่มีความสะดวกสบายมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักกาแฟในยุคปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัดเวลา
ข้อดีของเครื่องชงกาแฟแคปซูล
- ราคาไม่แพง เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลมีราคาตั้งแต่ 5,000 - 19,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป ส่วนตัวแคปซูลก็ไม่แพง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 19-40 บาทต่อแคปซูลเท่านั้น ใช้งานง่ายและสะดวกสบาย เพียงใส่แคปซูลลงในเครื่องแล้วกดปุ่ม ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการบดเมล็ดหรือปรับแต่งค่าต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความชำนาญในการชงกาแฟ
- ประหยัดเวลา สามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ
- สะอาด ไม่เกิดเศษกากกาแฟหลังการชง เพราะเมล็ดกาแฟถูกบรรจุอยู่ในแคปซูลแล้ว
- ได้รสชาติกาแฟที่สดใหม่ในทุกแก้ว เนื่องจากเมล็ดกาแฟถูกบรรจุในแคปซูลปิดสนิท ช่วยรักษาความสดของเมล็ดไว้ได้นาน
- หลากหลายรสชาติ สามารถเลือกแคปซูลจากหลายแบรนด์และหลายสายพันธุ์เมล็ดกาแฟ ตามความชอบของผู้บริโภค
ข้อเสียของเครื่องชงกาแฟแคปซูล
- คุณภาพและความสดของกาแฟในแคปซูลด้อยกว่ากาแฟที่บดสด เนื่องจากเมล็ดถูกบดและบรรจุไว้ในแคปซูลล่วงหน้า
- มีข้อจำกัดในการเลือกสายพันธุ์เมล็ดกาแฟ สามารถเลือกได้เฉพาะแบรนด์ เท่านั้น
- ข้อจำกัดในการปรับแต่งรสชาติ ไม่สามารถปรับปริมาณผงกาแฟได้
เครื่องชงกาแฟแคปซูลเหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก ไม่ต้องการปรับแต่งรสชาติหรือขั้นตอนการชงมากนัก
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดในการซื้อเครื่องชงกาแฟ เนื่องจากตัวเครื่องมีราคาไม่สูงมาก
- ผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการชงกาแฟ เหมาะสำหรับการดื่มกาแฟเพียงแค่ 1-2 แก้วต่อวัน
- ผู้ที่พอใจกับตัวเลือกสายพันธุ์เมล็ดกาแฟที่มีอยู่ในแคปซูล ไม่ต้องการทดลองกาแฟจากแหล่งอื่น
- ผู้ที่ไม่สนใจการปรับแต่งรสชาติอย่างละเอียด เช่น การปรับปริมาณผงกาแฟ อัตราส่วนนม เป็นต้น
ข้อควรพิจารณาของเครื่องชงกาแฟแคปซูล
- คุณภาพและความสดของกาแฟที่ด้อยกว่าการบดสด
- ข้อจำกัดในการเลือกสายพันธุ์เมล็ดกาแฟนอกเหนือจากที่แบรนด์นั้นๆ จัดเตรียมไว้
- ไม่สามารถปรับแต่งรสชาติได้มากนัก
ประเภทของเครื่องชงกาแฟสดมีหลากหลายให้เลือกใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก สำหรับนักชงกาแฟมืออาชีพ หรือผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการควบคุมรสชาติของกาแฟอย่างละเอียด เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซแบบกึ่งอัตโนมัติน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ส่วนเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแต่ก็ได้รสชาติของกาแฟสูงสุด เพียงแค่เติมเมล็ดกาแฟและกดปุ่ม เครื่องก็จะชงกาแฟได้อย่างอัตโนมัติ จึงเหมาะสำหรับการให้บริการที่ต้องชงกาแฟจำนวนมากๆ ทว่าก็มีข้อจำกัดในการปรับแต่งรสชาติ รวมไปถึงมีราคาค่อนข้างสูง
ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องชงกาแฟแต่ประเภทจึงควรพิจารณาจากความสะดวก งบประมาณ รวมถึงระดับความชำนาญของผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้รับประสบการณ์กาแฟที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด เมล็ดกาแฟคุณภาพก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณได้ลิ้มรสกาแฟอย่างแท้จริง พันธุ์ไทยเองก็มีเครื่องกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก สบาย ประหยัดเวลา ได้รสชาติเหมือนดื่มที่ร้าน ในราคาที่คุ้มค่า มีทั้งสีดำ และสีโรส โกลด์ สามารถสกัดกาแฟได้ภายใน 1 นาที รวมถึงกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย จากสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100% หลากหลายรสชาติ ทั้งดาร์ก โรสต์ นัตตี้ เบลนด์ และฟรุตตี้ เบลนด์ ใครอยากลิ้มลองก็สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้านทุกสาขาที่ร่วมรายการหรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่แอปพลิเคชัน Shopee อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับกาแฟดีๆ ได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย
อ้างอิง:
- เครื่องชงกาแฟใช้ในบ้านแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ เครื่องกาแฟแคปซูล, เอสเพรสโซ, เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ