13 ประโยชน์ของน้ำผึ้งดอกไม้ป่า สรรพคุณน่าทึ่งจากน้ำผึ้งธรรมชาติ
05 มิ.ย. 67

12 ประโยชน์ของน้ำผึ้งดอกไม้ป่า สรรพคุณน่าทึ่งจากน้ำผึ้งธรรมชาติ

 

สำหรับใครที่ชอบทานหวาน แต่อยากจะรักษาสุขภาพโดยการทานน้ำตาลจากธรรมชาติแทน การรับประทานน้ำผึ้งแทน นอกจากจะมีรสชาติที่หอมหวานอร่อยกว่าน้ำตาลทั่วไป อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย วันนี้พันธุ์ไทยชวนคุณมาทำความรู้จักกับน้ำผึ้ง ความแตกต่างของน้ำผึ้งแต่ประเภท และประโยชน์ของน้ำผึ้งดอกไม้ป่า สรรพคุณที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน พันธุ์ไทยชวนคุณทานน้ำผึ้งดอกไม้ป่าพันธุ์ไทยแทนการทานน้ำตาลหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลแบบสังเคราะห์

 

รังผึ้ง

 

ทำความรู้จักน้ำผึ้ง ที่มาและประเภทของน้ำผึ้ง

 

น้ำผึ้ง คือ?

 

น้ำผึ้ง หนึ่งในผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอันล้ำค่า ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความวิริยะอุตสาหะของแม่ผึ้งเล็กๆ และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

 

น้ำผึ้งมีกำเนิดจากน้ำหวานบริสุทธิ์ที่ผึ้งงานคัดสรรมาจากเกสรดอกไม้และพืชพรรณนานาชนิด ทั้งดอกไม้ป่าสีสันสดใสในผืนป่าธรรมชาติ และดอกไม้เศรษฐกิจที่ถูกเพาะปลูกไว้ ด้วยความปรารถนาที่จะสร้างผลผลิตอันวิจิตรงดงามจากแรงบันดาลใจเหล่านี้ แม่ผึ้งจึงบินไปมาอย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อรวบรวมน้ำหวานจากดอกไม้มากมาย

 

จากกระบวนการผสมผสานที่ประณีตล้ำค่านี้เอง จึงก่อกำเนิดเป็นน้ำผึ้งสองประเภทหลักๆ นั่นคือ น้ำผึ้งป่า ซึ่งมาจากดอกไม้และพืชพรรณในป่าธรรมชาติ และน้ำผึ้งเลี้ยง ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง

 

แม้จะมีที่มาที่แตกต่างกัน แต่น้ำผึ้งที่ดีทั้งสองประเภทควรมีลักษณะคุณภาพเป็นเลิศ เช่น รสชาติหวานกำลังดี กลิ่นหอมเฉพาะตัว และสีสันน่าดึงดูดใจ เพื่อสะท้อนถึงความพิถีพิถันและคุณค่าทางโภชนาการอันโดดเด่น

 

น้ำผึ้งจึงมิใช่เพียงของหวานล้ำรสเพื่อรับประทานเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเพียรพยายามและสายใยผูกพันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติที่งดงามแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

 

ที่มาของน้ำผึ้งแต่ละชนิด

 

น้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีความแตกต่างและความหลากหลายอย่างน่าพิศวง ซึ่งความแตกต่างนี้มีที่มาจากหลายปัจจัย ดังนี้

 

1. แหล่งที่มาของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามแหล่งที่มา คือ

- น้ำผึ้งป่า ซึ่งมาจากดอกไม้และพืชพรรณในป่าธรรมชาติ

- น้ำผึ้งเลี้ยง ที่มาจากการเลี้ยงผึ้งโดยเกษตรกร

 

2. ชนิดของพืชที่เป็นอาหารให้ผึ้ง

องค์ประกอบทางเคมีและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของน้ำผึ้งจะแตกต่างกันไปตามชนิดของดอกไม้และพืชที่ผึ้งไปเก็บน้ำหวาน เช่น

- น้ำผึ้งจากดอกลำไย จะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่แตกต่างจากน้ำผึ้งดอกสาบเสือ

- น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่จะมีลักษณะเฉพาะตัวต่างจากน้ำผึ้งดอกไม้ป่าทั่วไป

 

3. ลักษณะทางกายภาพ

น้ำผึ้งแต่ละชนิดอาจมีสี กลิ่น รสชาติ และความหนืดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของผึ้ง สภาพแวดล้อม และกระบวนการผลิต

 

4. คุณสมบัติทางโภชนาการ

องค์ประกอบทางเคมีในน้ำผึ้งต่างชนิดย่อมมีความแตกต่างกัน เช่น ปริมาณน้ำตาล โปรตีน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ

 

ความหลากหลายนี้ทำให้น้ำผึ้งมีหลายเฉดสี หลายรสชาติที่น่าลิ้มลอง เป็นสิ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและความขยันหมั่นเพียรของแม่ผึ้ง และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทานน้ำผึ้งที่เหมาะสมกับรสนิยมของตน

 

น้ำผึ้งหลายชนิด

 

ความแตกต่างของน้ำผึ้งแต่ละชนิด

 

1. ความแตกต่างในเรื่องของ รส กลิ่น และสี

ปัจจัยหลักที่ทำให้น้ำผึ้งหรือนมผึ้งสดมีความแตกต่างกันในเรื่องของรส กลิ่น และสี นั่นก็คือชนิดของดอกไม้และพืชที่ผึ้งงานไปเก็บน้ำหวานมา

 

เกสรดอกไม้และน้ำหวานจากพืชแต่ละชนิดนั้นมีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน ทำให้ลักษณะทางกายภาพของน้ำผึ้งที่ได้จึงมีความหลากหลาย ตั้งแต่สีเหลืองอ่อน น้ำตาลอ่อน ไปจนถึงน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลไหม้

 

นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องสายพันธุ์ของผึ้ง สภาพแวดล้อม และกระบวนการผลิตก็ยังมีผลต่อลักษณะของนมผึ้งสดด้วย ดังนั้น ความแตกต่างของน้ำผึ้งในเรื่องรส กลิ่น และสี จึงขึ้นอยู่กับพืชอาหารที่ผึ้งงานไปเก็บน้ำหวานมาเป็นหลัก นับเป็นเสน่ห์อีกประการของน้ำผึ้งจากธรรมชาติที่มีความหลากหลายให้ได้เลือกลิ้มรส

 

2. ความแตกต่างจากองค์ประกอบของน้ำตาล

องค์ประกอบของน้ำตาลในน้ำผึ้งมีผลต่อความแตกต่างในลักษณะทางกายภาพของน้ำผึ้ง ขั้นตอนการผลิตน้ำผึ้งของแม่ผึ้งนั้นเริ่มจากการเก็บน้ำหวานจากดอกไม้และพืชต่างๆ ซึ่งน้ำหวานเหล่านี้ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคสและฟรุกโทสเป็นหลัก เมื่อผึ้งงานนำน้ำหวานเข้าสู่กระเพาะอาหาร จะมีเอนไซม์จากน้ำลายช่วยเปลี่ยนน้ำตาลเหล่านี้ให้เป็นน้ำตาลแปรรูประหว่างการบิน จากนั้นผึ้งจะคายน้ำหวานแปรรูปนี้ลงในรังผึ้ง และมีการระเหยน้ำออกด้วยการกระพือปีกเพื่อลดความชื้น จนในที่สุดก็กลายเป็นน้ำผึ้งสมบูรณ์

 

อย่างไรก็ตาม หากเก็บรวงผึ้งเร็วเกินไปก่อนที่จะมีการระเหยน้ำอย่างเพียงพอ น้ำตาลกลูโคสและฟรุกโทสอาจยังคงเหลืออยู่ในปริมาณที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีผลต่อลักษณะทางกายภาพ เช่น การตกผลึกของน้ำผึ้งได้ โดยทั่วไป น้ำผึ้งที่มีน้ำตาลฟรุกโทสสูงจะมีแนวโน้มเกิดการตกผลึกง่ายกว่าน้ำผึ้งที่มีน้ำตาลกลูโคสสูง ดังตัวอย่างที่ว่า น้ำผึ้งจากสวนยางพาราจะตกผลึกง่ายกว่าน้ำผึ้งจากดอกลำไย นอกจากนี้ องค์ประกอบของน้ำตาลยังส่งผลต่อคุณสมบัติอื่นๆของน้ำผึ้งด้วย เช่น ระดับความหวาน จุดเยือกแข็ง และความคงตัวเชิงกายภาพ

 

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ความแตกต่างในสัดส่วนของน้ำตาลประเภทต่างๆ ซึ่งมีสาเหตุจากแหล่งที่มา ขั้นตอนผลิต และการเก็บเกี่ยว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แต่ละชนิดของน้ำผึ้งมีลักษณะแตกต่างกันไปนั่นเอง

 

ผึ้งกำลังตอมดอกไม้

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่าคืออะไร?

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่า (Wildflower Honey) เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอันล้ำค่า ที่มาจากความขยันขันแข็งของแม่ผึ้งผสานกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

 

แรงบันดาลใจจากดอกไม้นานาพรรณในเขตป่าเขียวขจี ตั้งแต่ดอกไม้ป่าสีสันสดใสไปจนถึงดอกสาบเสือสมุนไพรล้ำค่า ล้วนเป็นส่วนประกอบที่หล่อหลอมให้น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีรสชาติหวานกำลังดี กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และสีสันน่าลิ้มลอง

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่าเป็นมรดกล้ำค่าจากผืนป่าภาคเหนือของดินแดนสยามประเทศ บนเนินเขาและพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีเทือกเขาสลับซับซ้อนและทุ่งหญ้าสะวันนาอันงดงาม ณ แหล่งผลิตยอดนิยมอย่างเชียงใหม่ เชียงราย แพร่และตาก

 

ทุกหยดน้ำผึ้งดอกไม้ป่านั้นเปรียบเสมือนบทกวีบรรยายความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมสะท้อนถึงวิถีชีวิตอันพอเพียงและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของคนไทย น้ำผึ้งดอกไม้ป่าจึงมิใช่เพียงของหวานเลิศรส แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งสายใยที่ผูกพันคนไทยเข้ากับธรรมชาติอันงดงาม

 

น้ำผึ้งดอกลำไย น้ำผึ้งดอกไม้ป่า และน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ ต่างกันอย่างไร?

 

น้ำผึ้งดอกลำไย

- สี: สีน้ำตาลอ่อน

- กลิ่น: มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

- รส: รสหวานค่อนข้างมาก

- ความคงที่: สีและรสชาติคงที่ แม้แช่เย็น

 

น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่

- สี: สีเหลืองอำพันสวยงาม

- รส: รสหอมหวานกลมกล่อม

- ความคงที่: จะตกผลึกหากถูกความเย็น

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่า

- สี: สีจะค่อยๆเข้มขึ้นเรื่อยๆหลังเก็บเกี่ยว เริ่มจากสีเหลืองน้ำตาลอ่อน

- ฤดูที่เหมาะกับการเก็บเกี่ยว: มักเก็บในช่วงปลายปี (ธ.ค. - ม.ค.)

- ความคงที่: จะตกผลึกหากถูกความเย็น

 

สรุปได้ว่า น้ำผึ้งเหล่านี้มีความแตกต่างหลักๆอยู่ที่สี กลิ่น รสชาติ และการตอบสนองต่ออุณหภูมิเย็น ซึ่งเป็นผลมาจากพืชอาหารและช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกัน แต่ละชนิดจึงมีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัว

 

ความแตกต่างดังกล่าวนี้ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกน้ำผึ้งได้ตรงตามรสนิยมของตน พร้อมสัมผัสถึงเสน่ห์ของน้ำผึ้งแต่ละชนิดที่มาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

น้ำผึ้งและรังผึ้ง

 

แชร์ 12 ประโยชน์ของนำ้ผึ้งดอกไม้ป่า สรรพคุณจากน้ำผึ้งธรรมชาติ

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่าถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านโภชนาการและคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ดังนี้

 

1. เป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญ

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่าประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตจากน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างรวดเร็ว

- อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินบี วิตามินซี โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี

- มีกรดอะมิโนและเอนไซม์ที่จำเป็นต่อร่างกาย

 

2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ฟลาโวนอยด์ และกรดเฟนอลิก

- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง

 

3. ลดอาการอักเสบ

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านอักเสบธรรมชาติ เช่น ฟลาโวนอยด์ กรดอะมิโน และเอนไซม์ ซึ่งช่วยยับยั้งการอักเสบ บรรเทาอาการปวด บวม และแดง

- มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ เช่น สเตรปโตคอกคัส

 

4. รักษาแผลไฟไหม้

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีคุณสมบัติเป็นสารต้านจุลชีพ ช่วยป้องกันการติดเชื้อของแผล

- มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

- ช่วยดูดซับน้ำเหลืองและสิ่งสกปรกออกจากแผล

- สามารถใช้เป็นแผ่นปิดแผลชั้นนอกได้ โดยน้ำผึ้งจะค่อยๆ คลายตัวออกมาเพื่อหล่อเลี้ยงแผล

 

5. บรรเทาอาการไอ

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีรสหวานและมีความหนืด ช่วยหล่อลื่นคอหอยและบรรเทาอาการระคายเคืองจากการไอ

- มีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาท ช่วยผ่อนคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ ลดอาการไอรบกวน

- มีฤทธิ์ละลายเสมหะ ช่วยให้ขับเสมหะได้ง่ายขึ้น จึงลดการระคายเคืองที่เป็นสาเหตุของการไอ

 

6. ฆ่าเชื้อในทางเดินหายใจ

 

- มีสารต้านจุลชีพที่ออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสได้หลายชนิด เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ กรดอะมิโน และเอนไซม์

- สารเหล่านี้ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น แบคทีเรียก่อโรคปอดบวม เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

- ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ลดการอักเสบของทางเดินหายใจ

 

7. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิต

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีสารพอลิฟินอลและฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือด

- ส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

- มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

- มีสารแอนจิโอเทนซินคอนเวอร์ติงเอนไซม์ (ACE) ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ

- ลดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

 

8. มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสบางชนิด

 

- น้ำผึ้งมีปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในระดับที่เพียงพอต่อการยับยั้งการเจริญของจุลชีพหลายชนิด

- สารนี้เกิดจากปฏิกิริยาของเอนไซม์กลูโคสออกซิเดสที่มีอยู่ในน้ำผึ้ง กับน้ำตาลกลูโคสและออกซิเจน

- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สามารถทำลายชั้นผนังเซลล์และดีเอ็นเอของแบคทีเรียและเชื้อราได้

- นอกจากนั้น น้ำผึ้งยังมีกรดอินทรีย์ เช่น กรดอะซิติกและกรดบิวทิริก ที่ช่วยเสริมฤทธิ์การต้านจุลชีพด้วย

 

ฤทธิ์ต้านจุลชีพของน้ำผึ้งนี้พบว่ามีประสิทธิภาพกับเชื้อก่อโรคหลายชนิด เช่น

 

- แบคทีเรีย: สเตเฟิลโลคอกคัส, บาซิลลัส, ซาลโมเนลลา, อี.โคไล

- เชื้อรา: แคนดิดา, แอสเปอร์จิลลัส

- ไวรัส: ไวรัสหวัดใหญ่, ไวรัสโรคติดต่อทางเดินหายใจ

 

ดังนั้น น้ำผึ้งดอกไม้ป่าจึงมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ในการต้านเชื้อโรคบางชนิด ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางการรักษาเสริมในบางกรณีได้ โดยเฉพาะในการบำบัดบาดแผลและแผลเรื้อรัง

 

9. มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและเส้นผม

 

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีคุณสมบัติเป็นสารก่อผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวล และลดรอยแผลเป็น

- บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม และช่วยรักษาอาการผมร่วง

 

10. ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่ายังมีประโยชน์ในการช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญต่อสุขภาพของผู้บริโภค การศึกษาวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่า น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด ด้วยกลไกดังนี้

 

ลดไขมัน

- น้ำผึ้งประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์และกรดเฟนอลิก ซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันในเนื้อเยื่อและเส้นเลือด

- น้ำผึ้งยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดี (HDL) ซึ่งทำหน้าที่ดึงเอาคอเลสเตอรอลออกจากผนังเส้นเลือด

 

ลดคอเลสเตอรอล

- น้ำผึ้งมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหารในลำไส้เล็ก ทำให้คอเลสเตอรอลไม่สามารถซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดได้

- องค์ประกอบบางชนิดในน้ำผึ้งสามารถเร่งการขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย

- นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบของผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง

 

ดังนั้น การบริโภคน้ำผึ้งดอกไม้ป่าอย่างพอเหมาะจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการควบคุมระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคอ้วนและเบาหวาน ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 

11. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

 

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

- น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ กรดเฟนอลิก และเอนไซม์ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

- มีฤทธิ์ต้านไวรัส ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อ

- ช่วยเพิ่มจำนวนและกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญในการต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม

 

ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

- น้ำผึ้งมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินซี ไบโอติน โพแทสเซียม และสังกะสี ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย

- มีสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการซ่อมแซมผิวหนัง เส้นเอ็น และกระดูก

- มีฤทธิ์ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำผึ้งมะนาวและน้ำผึ้งสมุนไพร

 

12. ช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญและดูดซึมสารอาหาร

 

นอกเหนือจากประโยชน์ด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและซ่อมแซมร่างกายแล้ว น้ำผึ้งดอกไม้ป่ายังมีคุณสมบัติดีต่อระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหารของร่างกายด้วย ดังนี้

 

ดีต่อระบบเผาผลาญและย่อยอาหาร

- น้ำผึ้งมีเอนไซม์ย่อยอาหารหลายชนิด เช่น เดกซ์ตริน อัลฟ่า-กลูโคซิเดส และอินเวอร์เทส ที่ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน

- มีกรดอะมิโนและกรดอินทรีย์ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำย่อยในร่างกาย เช่น กรดฮีดรอคลอริก เปปซิน และเอนไซม์ย่อยอื่นๆ

- ช่วยลดอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ เนื่องจากส่งเสริมการย่อยและการขับถ่ายออกมาจากร่างกาย

 

ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร

- น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารพรีไบโอติกและสารที่เรียกว่า ไบโอร์เจนิกส์ ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียดีในลำไส้ให้แข็งแรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร

- มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมผ่านเยื่อบุผนังลำไส้ได้ง่าย จึงทำให้สารอาหารต่างๆ ดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น

- มีสารอาหารคอมเพล็กซ์ที่ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารต่างๆ ได้สมบูรณ์

 

น้ำผึ้งดอกไม้ป่าพันธุ์ไทย

 

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การบริโภคน้ำผึ้งดอกไม้ป่าที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย จึงช่วยเสริมสร้างร่างกายของเราให้สมบูรณ์แข็งแรง การทานน้ำผึ้งแทนน้ำตาลหรือสารให้ความหวานแบบสังเคราะห์ จึงเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและใส่ใจในเรื่องการกิน นอกเหนือจากประโยชน์ของน้ำผึ้งดอกไม้ป่า สรรพคุณที่เราคาดไม่ถึงแล้ว การใช้น้ำผึ้งเพื่อเสริมรสชาติให้กับอาหารและเครื่องดื่มให้กลมกล่อมก็เป็นสิ่งที่ร้านอาหารและคาเฟ่นิยมทำกัน อย่างเครื่องดื่มของพันธุ์ไทย เราก็ใช้น้ำผึ้งดอกไม้ป่าจากธรรมชาติ เพื่อให้เครื่องดื่มมีความกลมกล่อมของน้ำผึ้ง ไม่หวานบาดคอจนเกินไป แถมยังมีประโยชน์มากล้ำอีกด้วย ใครอยากลิ้มลองก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยหรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Shopee เลย ตามมาอ่านบทความสุขภาพแบบนี้ได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย แล้วอย่าลืมสั่งเครื่องดื่มยอดนิยมของพันธุ์ไทยกันนะ!

 

อ้างอิง:

- ความแตกต่างของน้ำผึ้ง และลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี - สุวรรณฟาร์ม

- น้ำผึ้งดอกลำไย น้ำผึ้งดอกไม้ป่า และ น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ต่างกันอย่างไร ? - สุวรรณฟาร์มผึ้ง

- น้ำผึ้งดอกไม้ป่า | Honey Polyplus