แสนชัย จูเปาะ เจ้าของไร่กาแฟ “Saen Chai Estate” ที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเจ็ดหน่วย ต.วัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ คุณแสนชัยเป็นเกษตรกรไทยที่เน้นการแปรรูปกาแฟในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ได้กาแฟพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นไร่ที่ได้รับรางวัลมากมาย การปลูกกาแฟของที่นี่ จะเน้นการปลูกกาแฟให้อยู่กับป่าธรรมชาติ ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ และไม่ใช้สารเคมี ไม่เร่งรีบให้ผลออกมาจำนวนมาก เพื่อให้ได้ผลกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด และด้วยความพร้อมทั้งสภาพอากาศ ระดับความสูงและพื้นที่ปลูกที่เป็นพื้นที่ราบสูง รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องของอากาศที่ค่อนข้างที่จะเย็น เนื่องจากเป็นผืนป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงทำให้กาแฟของ “Saen Chai Estate” กลายเป็นหนึ่งในกาแฟที่ดีที่สุดที่คอกาแฟต่างก็ต้องการที่จะลิ้มลองให้ได้สักครั้ง และในอนาคต คุณแสนชัยก็มีแผนที่จะพัฒนาสายพันธุ์กาแฟให้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่ในเรื่องของการเพาะเมล็ด การปลูก พื้นที่ปลูกให้ปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพเข้ามาช่วย และพัฒนาเรื่องการ Process ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
โดยจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการกาแฟของคุณแสนชัย เริ่มมาจากการที่เขาได้มาที่บ้านหนองเจ็ดหน่วย ที่เป็นหมู่บ้านของภรรยา และได้เห็นสภาพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 1,100 -1,300 เมตร และเป็นป่าสนเสียส่วนใหญ่ จึงลองทดลองปลูกกาแฟ โดยเริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลกับชาวบ้านกับผู้มีความรู้ของที่นั่น ไม่ว่าจะเป็น พะตี ทองดี และอีกหลายๆ คน จึงได้รู้ว่ากาแฟของพื้นที่นี่มีความพิเศษในเรื่องของสายพันธุ์ เพราะเมื่อ 54 ปีที่แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 ที่มิชชันนารี ได้นำต้นกล้ากาแฟมาปลูกไว้ที่นี่นั้นเอง
“ต้นกาแฟเหล่านั้นอยู่ในหมู่บ้าน โดยปีที่ผ่านมาจึงนำไปทดลองว่ากาแฟเหล่านี้ดีจริงไหม รสชาติมัน โอเคหรือเปล่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ปรากฏว่ามันมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน จึงคิดว่าจะนำส่วนนี้ไปขยายต่อไป เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านก็ปลูกแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมหรือได้รับการต่อยอดจึงทำให้กาแฟที่นี่หายไป”
แสนชัยให้ความสำคัญกับลูกสวนของตัวเอง และต้องการให้ลูกสวนทุกคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนการปลูกกาแฟจากสารเคมีเป็นอินทรีย์ วิธีการดูแลต้นกาแฟ และเมื่อแสนชัยแสดงให้เห็น ลูกสวนทุกคนก็จะเห็นคุณค่าของการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพ
“ผมว่ากาแฟสามารถเล่าเรื่องในตัวของมันเองได้ เมื่อไปถึงที่ไหนก็ตามมันก็จะบอกถึงวิถีชีวิตที่มันเกิดมา ตัวตนของมันจะบอกเองจากรสชาติของมันบอกไปถึงการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ปลูกใต้ร่มเงาไม้ ไม่รีบเร่งให้ผลออกมาจำนวนมาก แล้วก็บอกถึงการพึ่งพาอาศัยตัวของมันเอง รวมถึงสภาพอากาศบริสุทธิ์ของที่นี่ ตอนแรกเริ่มพวกเขาก็ไม่เคยมั่นใจกับการปลูกกาแฟเลย ไม่เคยคิดว่ามันจะทำให้พวกเขาอยู่ได้ แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มเห็นรายได้ หลายครอบครัวก็เริ่มที่จะหันมาปลูกกาแฟกับเรา ปัญหาก็จะมีอยู่กับเรื่องความรู้ ความเชี่ยวชาญเท่าไหร่ คือจริงๆ เขาก็เคยปลูก แต่มันไปถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เคยทำแล้วผิดหวัง ต่างจากหมู่บ้านที่ไม่เคยปลูกกาแฟพวกเขามีความคิดอยากริลองมากกว่าซึ่งตอนนี้ก็กลับมาฟื้นตื่นขึ้นอีกครั้ง”
จุดเด่นของกาแฟ: เป็นกาแฟต้นนํ้า ช่วยรักษาป่าต้นนํ้า และถูกปลูกขึ้นใต้ ต้นไม้ ให้กลิ่น Fruity floral คล้ายผลไม้สีเหลือง กล้วยตาก พรุนอบแห้ง
Tasting Note: Floral, Cacao Nibs, Chocolate, Plum, Prune, Thick & Smooth Mouthfeel
Process: Natural