นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท พีที่จี เอ็นเนอยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือบริษัทในเครือ("กลุ่มบริษัท") ให้ความสำคัญ และเคารพความเป็นส่วนตัว และตระหนักถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และตามมาตรฐานสากล
บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแจ้ง รายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการจัดการเพื่อรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านในฐานะลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา ในปัจจุบัน ในอดีต และอาจเป็นลูกค้า หรือคู่ค้าในอนาคต พนักงาน บุคคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ตัวแทน ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล กรรมการ ผู้ติดต่อ และบุคคล ธรรมดาอื่นที่กระทำในนามนิติบุคคล ซึ่งเป็นลูกค้า หรือคู่ค้านิติบุคคลของบริษัท ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และบุคคล ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมใช้เปิดเผย หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก และหรือต่างประเทศนั้น ได้รับ ความคุ้มครอง และเป็นไป ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดวิธีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไว้ สำหรับกรณีที่มีการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินมาตรการในการรักษา ความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรการ ที่เหมาะสม
คำจำกัดความที่กล่าวถึงในนโยบายฉบับนี้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับท่านซึ่งระบุ หรือสามารถระบุตัวตนของท่านได้ ซึ่งบริษัทได้เก็บ รวบรวมไว้ตามที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กำหนดให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งบริษัทได้เก็บรวบรวมใช้เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว ไปยังบุคคลภายนอก และหรือต่างประเทศ เมื่อบริษัทได้รับ ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทาการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบ ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านตามประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้
  1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือ เดินทาง เลขที่บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ตำแหน่ง สัญชาติ อายุ รวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชนของท่าน เช่น ศาสนา เชื้อชาติ และหมู่เลือด ซึ่งบริษัทได้รับ ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือมีความจำเป็น ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้
  2. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมลล์
  3. ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ สถานที่ทำงาน
  4. ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลธุรกรรม หมายเลขบัตรเครดิต
  5. ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบสารสนเทศ และเว็บไซต์ของบริษัท การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด การบันทึกเสียงสนทนา
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี หรือเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นคนไร้ความสามารถ บริษัทขอให้ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนท่าน หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ของท่านเป็นผู้ให้ ความยินยอมในการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมทั้งดำเนินการ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว อนึ่ง หากบริษัทพบว่าได้มีการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมตามกฎหมายจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์แล้วเช่นนี้ บริษัทขอปฏิเสธการดำเนินการใดๆ ตามคำขอของท่าน และจะทำการลบข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านในทันที เว้นแต่การเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็น กรณีที่บริษัทสามารถดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นข้อยกเว้นในการขอความยินยอมดังกล่าวได้
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุเกินกว่า 10 ปี และเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 22 มาตรา 23 หรือมาตรา 24 แล้วเช่นนี้บริษัทขอให้ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจ กระทำการแทนท่านเป็นผู้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน รวมทั้งดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว อนึ่ง หากบริษัทพบว่าได้มีการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมตามกฎหมายจากผู้ใช้อำนาจ ปกครองแล้วเช่นนี้ บริษัท ขอปฏิเสธการดำเนินการใดๆ ตามคำขอของท่าน และจะทำการลบข้อมูลส่วน บุคคลของท่านในทันที เว้นแต่การเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นกรณีที่ บริษัทสามารถดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นข้อยกเว้นในการขอความยินยอมดังกล่าวได้
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุเกินกว่า 10 ปี และเป็นกรณีที่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 22 มาตรา 23 หรือมาตรา 24 เช่นนี้ บริษัทขอให้ท่านเป็นผู้ให้ความยินยอมในการเก็บ รวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมทั้งดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณี ดังกล่าว อนึ่ง หากบริษัทพบว่าได้มีการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่ได้รับความยินยอมตามกฎหมายจากท่านแล้วเช่นนี้ บริษัทขอปฏิเสธการดำเนินการใดๆ ตามคำขอของท่าน และจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในทันที เว้นแต่การเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นกรณีที่บริษัทสามารถดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นข้อยกเว้นในการ ขอความยินยอมดังกล่าวได้
ลูกค้าทั่วไปแล้วนั้น บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับการ ซื้อขายสินค้า และหรือบริการของท่านอีกด้วย สำหรับท่านที่เป็นร้านค้า หรือผู้ประกอบการ นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใช้บริการ หรือเป็น
ต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ เท่าที่ท่านมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัด เพียงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) ที่ปรากฏอยู่ใน ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวนี้ต่อเมื่อมีกฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น โดยบริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ เกี่ยวข้องกับการระบุยืนยันตัวตน (identity) การตรวจสอบข้อมูล (verification) หรือการตรวจสอบสถานะ ต่างๆ (due diligence) ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) หรือการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer - KYC) ทั้งนี้ เพื่อความจำเป็นในการให้บริการ หรือกรณีเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลและหรือโอนไปยัง
ทั้งนี้ เพื่อความจำเป็นในการให้บริการ หรือกรณีเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลและหรือโอนไปยัง ต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ เท่าที่ท่านมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัด เพียงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) ที่ปรากฏอยู่ใน ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย และประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวนี้ต่อเมื่อมีกฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น โดยบริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ เกี่ยวข้องกับการระบุยืนยันตัวตน (identity) การตรวจสอบข้อมูล (verification) หรือการตรวจสอบสถานะ ต่างๆ (due diligence) ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) หรือการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer - KYC)
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลผ่านช่องทางการติดต่อซื้อขายสินค้า หรือบริการระหว่างกัน การแลกเปลี่ยน นามบัตร การให้ข้อมูลของท่านผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากแหล่งอื่น เช่น ตัวแทนขายสินค้า หรือบริการ ที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานภาครัฐ บริษัทในกลุ่มในเครือของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  1. เพื่อความจำเป็นในการติดต่อซื้อขายสินค้า หรือบริการ หรือปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อพิจารณา ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา เช่น การติดต่อสื่อสารเพื่อซื้อขายสินค้าและ บริการ, การทำสัญญา, การดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกเก็บ หรือชำระค่าสินค้าหรือบริการ, การพิจารณาคัดเลือกเพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง, การจัดส่งหรือรับสินค้าหรือบริการ,การชำระ ค่าตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่ง, การตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานตามสัญญา เป็นต้น
  2. เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น ตรวจสอบความถูกต้อง หรือคุณภาพสินค้าหรือบริการ ตามมาตรฐานสากล, การสืบสวนสอบสวนหรือสอบยันข้อเท็จจริง หรือเพื่อป้องกัน ควบคุม หรือ สอบสวนเหตุทุจริต หรือเพื่อป้องกันความปลอดภัย, การตรวจสอบหรือขอคำปรึกษาทางกฎหมาย ภาษีอากรหรือบัญชี เป็นต้น
  3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือการดำเนินธุรกิจ เช่น การนำส่งข้อมูล ให้แก่หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด, การปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งของพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย, การดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต หรือ การออกใบอนุญาตตาม กฎหมาย, การชำระค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย, การก่อตั้งหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ ทางศาล, การจัดประชุมและจ่ายค่าตอบแทนตามที่ท่านมีสิทธิได้รับตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
  4. เพื่อวิเคราะห์การใช้สินค้าหรือบริการของสมาชิก เพื่อจัดทำโปรโมชัน หรือส่วนลดในสินค้าหรือ บริการให้ตรงใจนอกจากนี้ เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน สำหรับท่านผู้ใช้บริการที่เป็นลูกค้า ทั่วไปบริษัทอาจจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับเพื่อ วัตถุ ประสงค์ทางการตลาด และเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการส่งข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา การจัดทำแคมเปญ ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและการตลาด, การจัดส่ง โปรโมชัน สิทธิประโยชน์ หรือส่วนลด หรือเชิญชวนร่วมกิจกรรม รวมถึงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลใดๆ ของท่าน ให้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด รวมถึงบริษัทในเครือ บริษัทย่อย บริษัทร่วมทุน คู่ค้า พันธมิตรและผู้ให้บริการของบริษัทดังกล่าว เพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับเพื่อวัตถุประสงค์ทาง การตลาด การนำเสนอข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย การจัดสิทธิประโยชน์และโปรโมชัน การจัดทำแคมเปญต่างๆ การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ และ การวิเคราะห์การใช้สินค้าหรือบริการของสมาชิก
สำหรับท่านผู้ใช้บริการที่เป็นร้านค้า หรือผู้ประกอบการ บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและ ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า และหรือบริการของท่าน เพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับวัตถุประสงค์ ด้านการตลาด และให้ท่านได้รับประโยชน์ในการซื้อสินค้า และบริการของบริษัทฯ เช่น การส่งข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา การจัดทำแคมเปญ รายการส่งเสริมการขาย การเสนอโปรโมชัน สิทธิประโยชน์ และเพื่อ เชิญชวนให้ท่านเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ท่านได้ระบุความสนใจไว้แก่บริษัทฯ วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวกับ การซื้อขายสินค้า และหรือบริการของท่าน เพื่อจัดทำโปรโมชัน หรือส่วนลดในสินค้าหรือบริการให้ตรงใจ ตรงกับความต้องการของท่าน เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า และหรือบริการของท่าน ให้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด รวมถึงบริษัทในเครือ บริษัทย่อย บริษัทร่วมทุน คู่ค้า พันธมิตร และผู้ให้บริการของ บริษัทดังกล่าว เพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การนำเสนอข่าวสาร รายการ ส่งเสริมการขาย การจัดสิทธิประโยชน์และโปรโมชัน การโฆษณา การจัดทำแคมเปญต่างๆ การนำเสนอ ขายผลิตภัณฑ์ และ การวิเคราะห์การใช้สินค้าหรือบริการของสมาชิก
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องร้องขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารราชการที่ใช้พิสูจน์ตัวบุคคล หรือเพื่อยืนยันตัวบุคคลจากท่านแล้วเช่นนี้ บริษัทเข้าใจเป็นอย่างดีว่า บริษัทต้องได้รับความยินยอมโดย ชัดแจ้งจากท่านเพื่อให้สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ อ่อนไหวของท่านได้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ อ่อนไหว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา หมู่เลือด รวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวอื่นใด ตามคำนิยามของกฎหมาย
เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งจากท่านแล้ว บริษัทจะเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ข้อมูลการจดจำใบหน้า และลายนิ้วมือเพื่อนำไปใช้ในวัตถุ ประสงค์ เพื่อความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สิน รวมถึงการบันทึกเวลาปฏิบัติงาน เป็นต้น
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือ มีความจำเป็นต้อง เปิดเผยหรือรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลอื่นโดยกฎหมาย ให้อำนาจกระทำได้โดยไม่ต้องขอ ความยินยอม หรือต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไป ตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใดๆ ของท่านให้แก่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด รวมถึงบริษัท ในเครือ บริษัทย่อย บริษัทร่วมทุน คู่ค้า พันธมิตร และผู้ให้บริการของบริษัทดังกล่าว เพื่อประมวลผลข้อมูล สำหรับวัตถุประสงค์ทางการตลาด การนำเสนอข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย การจัดสิทธิประโยชน์ และโปรโมชัน การจัดทำแคมเปญต่างๆ การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์การใช้สินค้าหรือบริการของสมาชิก
บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบริษัทในเครือในกลุ่ม หรือ ต่อบุคคลภายนอก เพื่อดำเนินการ เกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชี, การขอคำปรึกษาทางกฎหมาย, การดำเนินคดี และดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น ต่อการประกอบธุรกิจ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ
เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่นเดียวกับมาตรฐา นที่กฎหมายไทยกำหนด บริษัทจะไม่เปิดเผย หรือโอนข้อมูล ส่วนบุคคลของคุณ ให้แก่ บุคคลภายนอก หรือโอนไปยังปลายทางรับข้อมูลที่มิได้มีมาตรฐาน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเช่นเดียว กับที่กฎหมายไทยกำหนด เว้นแต่การเปิดเผยเช่นว่านั้นสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น บริษัทอาจใช้บริการ Cloud ของบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ต่อการให้บริการ และเพื่อให้การให้บริการ ของบริษัทมีความต่อเนื่อง ดังนั้น จึงอาจจะมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง Cloud เซิฟเวอร์ ที่อยู่นอกประเทศไทย นอกจากนี้
บริษัทยังจำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทที่มีการประ กอบกิจการ อยู่นอกประเทศ (ถ้ามี) นั้น สามารถเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทได้รวมทั้งเข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคลบางรายการของท่านด้วย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้การแบ่งปันข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านนั้นมีความปลอดภัย และเพื่อให้บุคคลภายนอก ที่เกี่ยวข้องมีมาตรฐานในการรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หรือดำเนินการอย่างอื่นตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ทั้งนี้ หากกฎหมายที่ใช้บังคับกำหนดให้ต้องขอความยินยอมจากท่านพื่อการดำเนินการอย่างใดอย่าง หนึ่งแล้วเช่นนี้ บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด
การโอนสิทธิ หน้าที่ และข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลนอก และหรือธุรกิจอื่นๆ
ท่านยอมรับ และตกลงว่าบริษัทอาจจะทำการควบรวมกิจการ แยกธุรกิจ โอนย้ายธุรกิจ จัดตั้งธุรกิจใหม่ หรือกระทำการอื่นใด ซึ่งอาจเป็นผลให้มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และผู้ใช้บริการทั้งหมด หรือ บางส่วนที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ไปยังบรรดาบริษัทย่อย บริษัทในเครือ บริษัทร่วมทุน และหรือธุรกิจที่ ควบรวมกิจการ หรือธุรกิจที่ได้แยกการดำเนินงานออกไป หรือธุรกิจที่ถูกโอนย้าย หรือธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นใหม่ หรือบุคคลภายนอกใดๆ ต่อไปได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านอีก
การเก็บรักษา ระยะเวลา และมาตรการความปลอดภัย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยจะพิจารณาระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับ ระยะเวลาตามสัญญา, อายุความกฎหมาย รวมถึงความจำเป็นที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป ตามระยะเวลาที่จำเป็นตามระยะเว ลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการใช้ สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทโดยจะเก็บไว้เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี ภายหลังจากวันที่ความสัมพันธ์ ระหว่างท่านกับกลุ่มบริษัทสิ้นสุดลง หรือนับแต่การติดต่อครั้งสุดท้ายกับกลุ่มบริษัท
บริษัทกำหนดมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล ให้มีความเหมาะสม ซึ่งจะ ครอบคลุมถึงความปลอดภัยในข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในรูปแบบของเอกสาร, ระบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบ คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือต่างๆ โดยดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ท่านมีความมั่นใจในระบบ รักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยครอบคลุมถึงการป้องกันการสูญหาย, การเข้าถึง, การใช้, การเปลี่ยนแปลง, การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ หรือกระทำการโดย ปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย
บริษัทได้จำกัดการเข้าถึง และใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านเพื่อ ป้องกันมิให้มีการโจมตี หรือมิให้มีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท โดยไม่ได้ รับอนุญาต รวมถึงจะดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ บุคคลภายนอก เพื่อดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล อีกด้วย ดังนั้น จึงขอให้ท่านมั่นใจว่าบริษัทจะดำเนินการกำกับดูแลบุคคลเหล่านั้นให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่ง
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิตามกฎหมาย ในการขอเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน, มีสิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลของท่านในรูปแบบ ที่ได้จัดระเบียบไว้แล้ว และสามารถอ่านได้ใน รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งข้อมูลไปยังบุคคลอื่นตามที่ท่านมีความประสงค์ (บริษัทขอสงวน สิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย โดยจะกำหนดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงอย่างเหมาะสม)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกรณีที่กฎหมายกำหนดไว้ มีสิทธิ ขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยวิธี การใดๆ และมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่จะมีข้อจำกัดตามกฎหมายที่ บริษัทไม่ อาจดำเนินการตามคำร้องขอของท่านได้
นอกจากนี้ ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในกรณีใดๆ แก่บริษัท ท่านสามารถเพิกถอนความยินยอม ที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมนั้นจะมีข้อจำกัด ตามกฎหมาย หรือตามสัญญา ทั้งนี้ การขอถอนความยินยอมของท่าน จะไม่ส่งผลกระทบต่อ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ ก่อนหน้าโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
บริษัทจะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถในการที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ที่ถูกต้อง และเป็น ปัจจุบันของท่าน เพื่อให้เป็นข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการ ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านพบว่าได้มีการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน หรือหากเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่บริษัทมีอยู่นั้นอาจไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุไว้ข้างต้น จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ในการนี้ บริษัทอาจปฏิเสธการใช้ สิทธิของท่านข้างต้นได้ตามข้อจำกัดการใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหากบริษัทมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องใดๆ
เพื่อยื่นคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล (Data Protection Officer DPO) หรือผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคล ตามช่องทางติดต่อที่ระบุไว้นโยบายฉบับนี้ บริษัทจะทำการพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอ ของท่านเป็นต้นไป ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านดังกล่าว บริษัทจะแจ้งเหตุผลเกี่ยวกับ การปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านไปพร้อมกัน
คุกกี้ (Cookies) และการใช้คุกกี้
หากท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทอาจวางคุกกี้ไว้ในอุปกรณ์ของท่าน และเก็บรวบรวมข้อมูล ของท่านโดยอัตโนมัติ คุกกี้บางส่วนมีความจำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และ บางส่วนเป็นคุกกี้ที่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาข้อมูล เพิ่มเติมในนโยบายคุกกี้ของบริษัท [Https://www.maxme.co.th/CookiesPolicy.html]
การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทบทวน ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เป็นครั้งคราว หรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ และกฏหมายที่ เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว บริษัทจะ เผยแพร่นโยบายฉบับปรับปรุงลงในเว็บไซต์และช่องทางอื่นๆ ของบริษัทโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ท่านได้พิจารณา และดำเนินการยอมรับ ด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ วิธีการอื่นใด และหากว่าท่านในฐานะผู้ใช้งาน ได้ดำเนินการ เพื่อยอมรับนั้นเรียบร้อยแล้ว ให้ถือว่านโยบายที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ นโยบายฉบับนี้ด้วย
การกำกับดูแลในการเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะมอบหมายให้บุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัด เพียง บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน ในการนี้ บริษัทจะกำกับดูแลให้ผู้ประมวลผล และผู้ประมวลผลช่วง (ถ้ามี) มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตาม นโยบายฉบับนี้ รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัดด้วย
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)
15 พฤศจิกายน 2565
รายละเอียดการติดต่อ
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) 90 อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ เอ ชั้นที่ 33 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์. 0 2168 3377, 0 2168 3388